อาชีวอนามัยและความปลอดภัย

ผลการดำเนินงานเทียบเป้าหมาย


สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2565

อัตราการบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมดของพนักงาน

อัตราการบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมดของผู้รับเหมา

อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน (LTIFR) ของพนักงาน

อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน (LTIFR) ของผู้รับเหมา

อัตราการบาดเจ็บรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) ของพนักงาน

อัตราการบาดเจ็บรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) ของผู้รับเหมา

จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการทำงานของพนักงาน

จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการทำงานของผู้รับเหมา

แนวทางการดำเนินงาน


โครงสร้างการบริหารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

บริษัทมีการปฏิบัติตามกฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยมีการแต่งตั้ง 1) คณะกรรมการความปลอดภัยฯ (คปอ.) ระดับพื้นที่ ที่มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของพนักงานโดยการเลือกตั้งตัวแทนจากนายจ้างและลูกจ้าง ตามสัดส่วนที่กฎหมายกำหนดและมีการประชุมเป็นประจำทุกเดือน นอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนดแล้ว บริษัทมีการบริหารจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ครอบคลุมทุกพื้นที่การดำเนินการของบริษัท โดยจัดให้มี 2) คณะอนุกรรมการความปลอดภัยฯ ระดับสายงาน มีวาระและการคัดสรรคณะกรรมการทุก 2 ปี มีหน้าที่ในการพิจารณาประเด็นปัญหาจากคณะกรรมการความปลอดภัยฯ (คปอ.) ระดับพื้นที่ รวมถึงพิจารณาอนุมัติงบประมาณ ซึ่งดำเนินงานภายใต้การกำกับดูแลของ 3) คณะกรรมการนโยบายความปลอดภัยฯ ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ประกาศและถ่ายทอดนโยบายให้แต่ละสายงานนำไปปฏิบัติเป็นมาตรฐานเดียวกัน ครอบคลุมพนักงานทุกระดับในองค์กร รวมไปถึงผู้รับเหมาและคู่ค้าตลอดห่วงโซ่คุณค่าของบริษัท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีการนำผลการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานมาปรับปรุงขั้นตอนการดำเนินงาน พื้นที่การทำงาน การอบรมพนักงาน รวมถึงปรับปรุงอุปกรณ์ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น

ยกระดับอาชีวอนามัย สร้างความปลอดภัยน่าทำงาน

บริษัทดำเนินการขับเคลื่อนสิทธิด้านความมั่นคงปลอดภัยควบคู่กับการดำเนินธุรกิจ คุณภาพชีวิต สภาพแวดล้อมที่ดี และความปลอดภัยในระหว่างปฏิบัติงานของพนักงาน รวมถึงผู้รับเหมาที่เข้ามาปฏิบัติงานในพื้นที่ของบริษัท โดยบริหารจัดการพื้นที่ปฏิบัติงานและสภาพแวดล้อมให้มีความปลอดภัยตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อก้าวสู่องค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุภายในปี 2573 บริษัทกำหนดคณะกรรมการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กำหนดนโยบายแนวทางการดำเนินงาน และแผนการพัฒนาระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมทั้งดำเนินโครงการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ร่วมกับสำนักกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CCO) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมถึงจัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัตคิการคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) เป็นประจำทุกปี ตลอดยกระดับการจัดการให้เทียบเคียงระดับสากล เพื่อไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายในและภายนอกองค์กร พนักงานได้รับการดูแลให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัย และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้แนวทางการลดอุบัติเหตุ

การประเมินความเสี่ยง โดยการระบุสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตรายในสถานที่ทำงาน

ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยง

  • งานที่ทำเป็นประจำ (Routine)
  • งานที่ทำเป็นครั้งคราว (Non-Routine)
  • กิจกรรมหรืองานจากพื้นที่ภายนอกที่มีความเสี่ยง (Out side Workplace)
  • กิจกรรมหรืองานที่เกี่ยวกับผู้รับเหมา/หน่วยงานอื่น (Contractor)
  • สภาพแวดล้อม (Environmental)
  • เครื่องจักร/เครื่องมือ/อุปกรณ์ (Equipment)
  • วัสดุ/วัตถุดิบ (Materials)
  • การกระทำหรือพฤติกรรม (Human Behavior)
  • สภาพการทำงาน (Condition)
  • คน (เกิดจากตัวพนักงานเอง)
  • ปัจจัยทางสังคม
ความรุนแรง/โอกาสเกิด L (น้อย) M (ปานกลาง) H (สูง)
L (น้อย) ความเสี่ยงเล็กน้อย (1) ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (2) ความเสี่ยงปานกลาง (3)
M (ปานกลาง) ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ (2) ความเสี่ยงปานกลาง (3) ความเสี่ยงสูง (4)
H (สูง) ความเสี่ยงปานกลาง (3) ความเสี่ยงสูง (4) ความเสี่ยงที่ยอมรับไม่ได้ (5)
ระดับความเสี่ยง การดำเนินการ
ยอมรับไม่ได้ (5) หยุดการทำงานในกิจกรรมงานทันที แล้วแก้ไขให้ระดับความเสี่ยงลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยต้องมีการตรวจสอบการแก้ไขดังกล่าวก่อนอนุญาตให้ปฏิบัติงาน พร้อมจัดทำเป็นมาตรการควบคุม ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการ
สูง (4) ลดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยทบทวนมาตรการควบคุมที่มีอยู่/ยกเลิก/จัดทำมาตรการใหม่/จัดทำวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และโครงการ ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการ
ปานกลาง และยอมรับได้ (2,3) ทบทวนความเหมาะสมของมาตรการควบคุมที่มีอยู่ เพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้อย่างต่อเนื่องและตรวจสอบการปฏิบัติการโดยหัวหน้างานอย่างเข้มงวด
เล็กน้อย (1) ตรวจสอบการทำงานเป็นประจำโดยหัวหน้างาน,จป.,คปอ.

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) มอบหมายให้ผู้บริหารระดับแผนกหรือเทียบเท่าของแต่ละพื้นที่ประเมินความเสี่ยงระบุกิจกรรม/พื้นที่/ลักษณะงาน อาทิ การขับขี่ยานยนต์/มอเตอร์ไซต์ สารเคมี แสง เสียง โดยพิจารณาจากงานที่ทำงานจากพื้นที่ภายนอกที่มีความเสี่ยง รวมถึงงานที่เกี่ยวกับผู้รับเหมา รวมถึงทบทวนความเสี่ยงกรณีเกิดการเปลี่ยนแปลงการควบคุม วัตถุดิบ / กิจกรรม / กระบวนการ / ผลิตภัณฑ์ใหม่ /ผังของกระบวนการทำงาน รวมถึงกรณีมีกฎหมายใหม่ / พบข้อร้องเรียน / การเกิดอุบัติเหตุ และการพิจารณาลดระดับความเสี่ยง ปีละครั้ง โดยการประเมินความเสี่ยงครอบคลุมทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นประจำปกติ และสถานการณ์ไม่ปกติของการทำงานที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ควบคู่ไปกับการประเมินความเสี่ยงของพฤติกรรมที่มีผลต่อกิจกรรมการทำงาน พร้อมทั้ง ชี้บ่งอันตรายและประเมินหานัยสำคัญของลักษณะปัญหาความปลอดภัย ภายใต้กรอบการพิจารณาทั้ง 7 หมวด ประกอบด้วย 1) สภาพแวดล้อม (Environmental) 2) เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ (Equipment) 3) วัสดุ / วัตถุดิบ (materials) 4) การกระทำหรือพฤติกรรม (Human behavior) 5) สภาพการทำงาน (Condition) 6) ตัวพนักงาน 7) ปัจจัยทางสังคม

จากนั้นร่วมกันประเมินความเสี่ยงโดยใช้หลักเกณฑ์การพิจารณา 1) พิจารณาถึงโอกาสที่จะเกิดความสูญเสียของอันตราย 2) พิจารณาถึงความรุนแรงจากความสูญเสียของอันตราย จากนั้นจัดทำทะเบียนความเสี่ยงเพื่อนำไปพิจารณาจัดลำดับความสำคัญ และพิจารณามาตรการควบคุมความเสี่ยง

การจัดลำดับความสำคัญและบูรณาการแผนปฏิบัติการกับเป้าหมายเชิงปริมาณเพื่อจัดการความเสี่ยง

ผู้รับผิดชอบของแต่ละพื้นที่พิจารณาจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง เพื่อพิจารณากำหนดมาตรการการจัดการ ความเสี่ยง และเสนอขอการอนุมัติจากคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

ระดับความเสี่ยง การดำเนินการ
ยอมรับไม่ได้ (5) หยุดการทำงานในกิจกรรมงานทันที แล้วแก้ไขให้ระดับความเสี่ยงลดลงอยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยต้องมีการตรวจสอบการแก้ไขดังกล่าวก่อนอนุญาตให้ปฏิบัติงาน พร้อมจัดทำเป็นมาตรการควบคุม ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการ
สูง (4) ลดระดับความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ โดยทบทวนมาตรการควบคุมที่มีอยู่/ยกเลิก/จัดทำมาตรการใหม่/จัดทำวัตถุประสงค์ เป้าหมาย และโครงการ ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานพร้อมให้ตรวจสอบตลอดระยะเวลาดำเนินการ
ปานกลาง และยอมรับได้ (2,3) ทบทวนความเหมาะสมของมาตรการควบคุมที่มีอยู่ เพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้อย่างต่อเนื่องและตรวจสอบการปฏิบัติการโดยหัวหน้างานอย่างเข้มงวด
เล็กน้อย (1) ตรวจสอบการทำงานเป็นประจำโดยหัวหน้างาน,จป.,คปอ.

และมอบหมายไปยังผู้เกี่ยวข้องเพื่อจัดทำโครงการ แผนปฏิบัติการ พร้อมกำหนดวัตถุประสงค์ เป้าหมายเชิงปริมาณและผู้รับผิดชอบ เสนอคณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานพิจารณาอนุมัติโครงการและแผนงาน อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการได้ที่ —> รายงานการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปี 2565 (หน้า 146-152)

ตัวอย่างโครงการวัตถุประสงค์และเป้าหมาย

ตัวอย่างแผนงานอาชีวอนามัย ความปลอดภัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

นอกจากนี้ บริษัทเปิดโอกาสให้พนักงานรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงรายงานกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงผ่านช่องทางต่างๆ พร้อมทั้งกำหนดขั้นตคอนการสืบสวนอุบัติเหตุ โดยมีคณะกรรมการสอบสวนอุบัติเหตุเป็นผู้สอบสวนและวิเคราะห์อุบัติเหตุ รวมถึงกำหนดแนวทางการแก้ไขที่เหมาะสม จากการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของพนักงานและผู้รับเหมาพบกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูงทั้งหมด 5 กิจกรรม ประกอบด้วย การส่งสินค้าดิลิเวอรี (Rider Dilivery) การทำงานของผู้รับเหมาขนส่งสินค้า การทำงานของผู้รับเหมาซ่อมสร้าง การขับรถโฟล์คลิฟท์ การทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร ในปี 2565 มีอุบัติเหตุถึงขั้นเสียชีวิตจากกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง โดยมีผลการสอบสวนสรุปได้ดังนี้

กิจกรรมความเสี่ยงสูง (สาเหตุ) สภาพการณ์ที่ไม่ปลอดภัย (สาเหตุ) การกระทำที่ไม่ปลอดภัย แนวทางแก้ไข/ป้องกัน

การส่งสินค้าดิลิเวอรี (Rider Delivery)

  • ถนนมีแสงสว่างไม่เพียงพอ
  • ไม่มีสัญญาณจราจรบริเวณทาง 3 แยก
  • สภาพแวดล้อมกลางวันมีแดดแรง
  • ขับขี่จักรยานยนต์ใช้ความเร็วเกินกำหนด (50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง)
  • ไม่ชะลอความเร็วรถบริเวณทางแยก, ทางโค้ง, ออกจากซอย
  • ไม่ล็อคสายรัดคางหมวกกันน็อก/ใช้หมวกกันน็อกไม่เต็มใบ
  • สภาพร่างกายไม่พร้อมปฏิบัติงาน

ปฏิบัติตามมาตรการ 7 ต้อง 11 ห้าม

  • (ต้อง) สวมหมวกกันน็อก และล็อกสายรัดคาง
  • (ต้อง) เตรียมร่างกายให้พร้อมต่อการขับขี่
  • (ต้อง) ศึกษาเส้นทางจราจร และสภาพอากาศ
  • (ห้าม) ขับรถเร็วเกิน 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
  • (ห้าม) ขับรถเร็วเมื่อขับผ่านทางแยก, ทางโค้ง
  • (ห้าม) ขับรถใกล้จุดบอดรถหรือตามหลังกระชั้นชิด

การทำงานของผู้รับเหมาขนส่งสินค้า

  • ถนนมีแสงสว่างไม่เพียงพอ
  • สภาพถนนเป็นทางลาดชัน, ทางโค้ง, ขรุขระ, มีการซ่องก่อสร้างถนน
  • สภาพแวดล้อมมีฝนตกทำให้ถนนลื่น
  • ใช้ความเร็วไม่เหมาะสมในเขตชุมชน
  • ไม่ชะลอความเร็วรถ บริเวณทางโค้ง, ลาดชัน, แสงสว่างน้อย
  • ไม่รัดเข็มขัดนิรภัย (ผู้ขับขี่/ผู้ร่วมโดยสาร)
  • รณรงค์การขับขี่ปลอดภัย (ใช้ความเร็วต่ำ/เหมาะสม ช่วงลาดชัน ทางโค้ง, เขตชุมชน และวิสัยทัศน์ถนนไม่ปลอดภัย (ฝนตก, แสงสว่างไม่เพียงพอ)
  • ผู้ขับขี่/ผู้โดยสาร ต้องรัดเข็มขัดนิรภัย
  • ประเมินความเสี่ยงเส้นทางวิ่ง

การทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร

  • ไม่มี Safety cover guard ที่ฝาหลังของเครื่องจักร
  • พนักงานไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการซ่อมบำรุง โดยไม่มีการตัดแยกพลังงานก่อนการซ่อมบำรุง
  • ทำการติดตั้ง Safety cover guard ที่เครื่องจักร
  • ให้ความรู้และกำหนดใช้ lock out-tag out
  • อบรมขั้นตอนการซ่อมบำรุงอย่างปลอดภัย

แผนการพัฒนาระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

บริษัทให้ความสำคัญกับการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัยในพื้นที่ปฏิบัติของพนักงาน ครอบคลุมไปถึงผู้รับเหมาที่อยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทให้มีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล โดยจัดอบรมให้ความรู้ ประเมินช่องว่าง (Gap) ของระบบปัจจุบันเทียบกับ ISO 45001: 2018 พร้อมทั้งจัดทำแผนยกระดับพิจารณาคัดเลือกพื้นที่ที่มีความพร้อมเพื่อยื่นขอรับการรับรองตรวจประเมินโดยผู้ตรวจสอบภายนอก (Third Party) และเตรียมพร้อมก่อนรับการตรวจจริง รวมถึงตรวจประเมินประจำปี (Surveillance Audit) เพื่อรักษาระบบ ซึ่งในปี 2565 บริษัทได้รับการรับรอง ISO 45001: 2018 เพิ่ม 8 พื้นที่ คือ ซีพีแรม ลำพูน, ซีพีแรม สุราษฏร์ธานี, ศูนย์กระจายสินค้า DC สุวรรณภูมิ, ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (CDC) สุวรรณภูมิ, ศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค (RDC) มหาชัย, ศูนย์กระกระจายสินค้าควบคุมอุณภูมิ (CDC) มหาชัย, ศูนย์กระจายสินค้าภูมิภาค (RDC) หาดใหญ่, ศูนย์กระจายสินค้าควบคุมอุณภูมิ (CDC) หาดใหญ่ ส่งผลให้พื้นที่เป้าหมายของบริษัทพื้นที่สายโรงงานซีพีแรม ได้รับการรับรองครอบคลุม ร้อยละ 100 โดยในปี 2566 มีแผนขยาย จำนวน 5 พื้นที่

แผนยกระดับมาตรฐานการจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย

  • อบรมให้ความรู้
  • นำมาตรฐาน ISO 45001 : 2018 ประยุกต์ใช้ในทุกพื้นที่
  • วิเคราะห์ช่องว่าง (Gap) ระบบปัจจุบันเทียบ ISO 45001 : 2018
  • จัดทำแผนยกระดับรายพื้นที่
  • คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย (ระยะที่ 1)





  • ขอการรับรอง 7 พื้นที่
  • Pre-Audit โดยหน่วยงานภายนอก













  • ขอการรับรองเพิ่ม 3 พื้นที่
  • Pr-Audit โดยหน่วยงานภายนอก
  • ตรวจประจำปี (Surveillance Audit) Maintain Certification ISO 45001 : 2018 7 พื้นที่
  • ตรวจติดตามโดยผู้ตรวจประเมินภายใน (Internal Audit)




  • คัดเลือกพื้นที่เป้าหมาย (ระยะที่ 2)
  • ขอการรับรองเพิ่ม 8 พื้นที่
  • Pre-Audit โดยหน่วยงานภายนอก
  • ตรวจประจำปี (Surveillance Audit) Maintain Certification ISO 45001 : 2018 7 พื้นที่
  • ตรวจติดตามโดยผู้ตรวจประเมินภายใน (Internal Audit)
  • ต่ออายุใบรับรอง 10 พื้นที่
  • ขอการรับรองเพิ่ม 5 พื้นที่
  • Pre-Audit โดยหน่วยงานภายนอก
  • ตรวจประจำปี (Surveillance Audit) Maintain Certification ISO 45001: 2018
  • ตรวจติดตามโดยผู้ตรวจประเมินภายใน (Internal Audit)





ประเมินและติดตามผล สุขภาพ ความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดี โดยองค์กรอิสระภายนอก

แผนการตรวจ SCA สายงานกระจายสินค้า ปี 2565

2565 : ใบรับรองใหม่ 16 พื้นที่

2566 : ขยายเพิ่ม 5 พื้นที่

นโยบาย เป้าหมาย และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

ภายใต้นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน บริษัทมีการตั้งเป้าหมายตั้งแต่ปี 2565 ถึงปี 2573 โดยมุ่งมั่นสู่การดำเนินธุรกิจที่ไม่พบจำนวนและอัตราผู้เสียชีวิตอันเนื่องมาจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมาทั้งหมด และจำนวนอัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงานของพนักงานและผู้รับเหมา (Lost Time Injury Rate: LTIFR) มีแนวโน้มลดลงร้อยละ 40 และเป็นศูนย์ ในปี 2573 ซึ่งบริษัทมีการดำเนินการประเมินความเสี่ยง 4 ขั้นตอนหลัก โดยการระบุสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอัจตรายในสถานที่ปฏิบัติ ได้แก่ 1) ระบุกิจกรรม พื้นที่ และลักษณะงาน 2) ชี้บ่งอันตราย 3) ประเมินความเสี่ยง และ 4) จัดทำทะเบียนความเสี่ยง รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญและบูรณาการแผนปฏิบัติการกับเป้าหมายเชิงปริมาณ เพื่อกำหนดมาตรการการจัดการความเสี่ยง พร้อมนำเสนอให้คณะกรรมกาารความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน (คปอ.) พิจารณาอนุมัติโครงการและดำเนินแผนงานประจำเดือนและประจำปี รวมถึงเปิดโอกาสให้พนักงานรายงานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นหรือหรือมีความเสี่ยงสูงผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อลด ควบคุมและป้องกันอุบัติเหตุใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น

การบูรณาการการดำเนินงานเพื่อเตรียมพร้อมและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

บริษัทมีการบูรณาการดำเนินการ เพื่อเตรียมความพร้อมและตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉิน

ตัวอย่างการดำเนินการ

ตัวอย่างตารางฝึกซ้อมแผนฉุกเฉินประจำปี

โปรแกรมการประเมินความก้าวหน้าในการลด/ป้องกันปัญหาสุขภาพ/ความเสี่ยงต่อเป้าหมาย

คณะกรรมการความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ประเมินและติดตามความคืบหน้าของโครงการและแผนงานทุกเดือน ทั้งในเชิงคุณภาพ (Qualitative) เชิงปริมาณ (Quantitative) เชิงรุก (Proactive) อาทิ การตรวจสภาพแวดล้อมในการทำงาน การตรวจความปลอดภัยตามแผนการตรวจสอบเครื่องจักร อุปกรณ์ การบำรุงรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์ การตรวจสุขภาพ พร้อมทั้งมีการทบทวนวัตถุประสงค์ และเป้าหมายของโครงการปีละครั้ง

ตัวอย่างการติดตามเชิงปริมาณเพื่อวัดความก้าวหน้าของวัตถุประสงค์ และเป้าหมาย ปี 2564

ตัวอย่างการติดตามเชิงรุกความปลอดภัยของสายปฏิบัติการร้าน 7-Eleven โดยหน่วยงานตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานร้าน (Quality Store Standard Inspector) เดือนละครั้ง

ตัวอย่างการติดตามเชิงรุกตรวจสุขภาพตามปัจจัยเสี่ยง

โปรแกรมการตรวจประเมินภายใน

บริษัทกำหนดให้มีกระบวนการตรวจประเมินภายในอย่างเป็นระบบ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบการจัดการอาชีวอนามัย และความปลอดภัยขององค์กรได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิผล โดยร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดทำโครงการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม (SHE) เพื่อป้องกันอุบัติเหตุร้ายแรงและลดผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยคณะกรรมการกลางปีละ 1 ครั้ง ภายใต้เกณฑ์การตรวจประเมินประสิทธิผลด้าน SHE  ดังนี้

ในปี 2565 บริษัทดำเนินงานด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน รวมถึงส่งเสริมการมีคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่พนักงานในองค์กรผ่าน 3 โปรแกรมหลัก ดังนี้

1. โปรแกรมความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานและครอบครัวพนักงาน

โครงการจัดรูปแบบการทำงานแบบยืดหยุ่น

บริษัทส่งเสริมสร้างความสมดุลให้กับพนักงานระหว่างการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-left Balance) โดยพนักงานประจำสำนักงานสามารถเลือกเวลาทำงานให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้ชีวิตของตนเองได้ ตามช่วงเวลาที่บริษัทกำหนดได้แก่

07.30-17.00 น.

08.00-17.30 น.

08.30-18.00 น.

09.00-18.30 น.

09.30-19.00 น.

นอกจากนี้ บริษัทยังมีนโยบาย และแนวทางให้พนักงานสามารถเลือกทำงาน ณ สถานที่ใดก็ได้ (Work from Anywhere) รวมไปถึงให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้าน (Work from Home) จำนวนสูงสุด 3 วันต่อสัปดาห์ โดยต้องปฏิบัติตามหลัก D M H T T เคร่งครัด เพื่อลดความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 พร้อมกันนี้ บริษัทสนับสนุนระบบการทำงานต่างๆ เพื่อรองรับการทำงานแบบเลือกทำงาน ณ สถานที่ใดก็ได้ เพื่อให้พนักงานสามารถติดต่อสื่อสารและเข้าถึงระบบในการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบการประชุมออนไลน์ (Webex, blueJeans, Microsoft Team, Zoom) ระบบการสื่อสารผ่าน CPALL Connect และ True Connect เป็นต้น รวมถึงสนับสนุนให้พนักงานใช้โน๊ตบุ๊กที่มีโปรแกรมของบริษัทแทนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ (Desktop Computer)


โครงการ บ้านมีรัก สวัสดิการเพื่อบุตรหลานพนักงาน

บริษัทมองเห็นถึงความสำคัญและคุณค่าทั้งพนักงานและครอบครัวของพนักงาน นอกจากเป็นการสนับสนุนความสัมพันธ์ที่ดี ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในครอบครัว ลดปัญหาและความวิตกกังวลของพนักงานแล้ว ยังเป็นการสร้างเครือข่ายและความผูกพันที่ดีต่อองค์กร โดยมุ่งสนับสนุนสวัสดิการสำหรับคุณภาพที่ดีของครองครัวพนักงานผ่าน 3 องค์ประกอบหลัก ดังนี้


สถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับรองรับบุตรหลายของพนักงานที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี

ลดความเสี่ยงจากอันตรายเนื่องจากวุฒิภาวะของเด็ก และเยาวชนในพื้นที่การปฏิบัติงานของบริษัท


กิจกรรมการเรียนรู้เพิ่มเติบสำหรับบุตรหลานของพนักงานและผู้บริหาร

เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง สร้างประสบการณ์การเรียนรู้และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ อาทิ

  • กิจกรรม “SPIM Active Learning Science” เรียนรู้วิทยาศาสตร์ใกล้ตัว ผ่าน 2 กิจกรรมการทดลองออนไลน์กับคุณครูชีววิทยาระดับประเทศ พร้อมอุปกรณ์การทดลองส่งตรงถึงบ้านแบบไม่มีค่าใช้จ่าย
  • กิจกรรมการอบรมหลักสูตร “หุ่นยนต์ละโค้ดดิ้ง”

ชมรมหนังสือเล่มแรกสำหรับเด็กเล็ก
  • โครงการหนังสือเล่มแรก (Bookstart): กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึง 3 ปี ส่งเสริมให้พ่อแม่อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน อย่างน้อยวันละ 10-15 นาที เพื่อปลูกฝังให้เด็กรักการอ่าน และเสริมสร้างสายสัมพันธ์ครอบครัว
  • โครงการพ่ออ่านบ้านอุ่น: กลุ่มเป้าหมาย ตั้งแต่ตั้งครรภ์จนถึง 3 ปี ส่งเสริมให้พ่อมีส่วนร่วมในการเลี้ยงลูกด้วยตนเองมากขึ้น ผ่านการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง อย่างน้อยวันละ 10-15 นาที
  • โครงการสมรรถนะเด็กปฐมวัยในการพัฒนาตามวัย: กลุ่มเป้าหมาย 3-6 ปี ส่งเสริมและแนะแนวทางสำหรับพ่อแม่ในการสนับสนุนให้เด็กทำกิจกรรม และกิจวัตรจนเป็นนิสัยกระทั่วเกิดสมรรถนะตามวัย
  • โครงการเสริมทักษะชีวิต: กลุ่มเป้าหมาย ไม่จำกัดอายุ ส่งเสริมและแนะแนวทางสำหรับพ่อแม่ในการเลี้ยงลูกให้เหมาะสมกับวัย พร้อมค้นหาบุคลิกเฉพาะตัวของลูก ตามแนวทาง “เลี้ยงลูกให้ถูกทาง”

โครงการ “มุมนมแม่”

บริษัทมีสวัสดิการสำหรับพนักงานหญิงในการเตรียมความพร้อมสำหรับการเป็นคุณแม่ ตั้งแต่ระยะตั้งครรภ์ คลอดบุตร จนถึงการเลี้ยงดูบุตรให้เติบโต ดังนี้

  • จัดอบรมให้ความรู้เรื่องนมแม่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
  • กิจกรรมโภชนาการที่ดีสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
  • กิจกรรมเยี่ยมคุณแม่หลังคลอด เพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และความสัมพันธ์อันดี
  • จัดสถานที่ให้คุณแม่สำหรับให้นมบุตรภายในพื้นที่ปฏิบัติงานศูนย์กระจายสินค้า ซีพี ออลล์

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

ลดอัตราการลาออกของพนักงานหญิงหลังจากคลอดบุตร

ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้าง และลูกจ้าง

  

ความพึงพอใจของพนักงาน


โครงการ Health for ALL

บริษัทตระหนักถึงสิทธิด้านสุขภาพของพนักงาน จึงสนับสนุนให้พนักงานมีกิจกรรมสุขภาพ สร้างความตื่นตัวในการออกกำลังกาย ลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆ เช่น โรคอ้วน โรคเบาหวาน เป็นต้น ปัจจุบันมีพนักงานเข้าร่วมโครงการ 3,425 ราย

  • บริษัท ซีพีแรม จำกัด ดำเนินกิจกรรม “รักษ์สุขภาพ” ต่อเนื่องกว่า 3 ปี ให้แก่พนักงาน พร้อมจัดให้มีการวัดผลสมรรถภาพร่างกายทั้งหมด 5 ด้าน ได้แก่ ค่าระดับน้ำตาลในเลือด การเผาผลาญโดยการออกกำลังกาย การลดลงของน้ำหนัก สัดส่วนไขมันในร่างกาย และระยะการเดินและวิ่ง ปัจจุบันมีพนักงานเข้าร่วมโครงการ 105 ราย สะสมกว่า 294 ราย
  • บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ดำเนินกิจกรรมที่หลากหลาย อาทิ Fit From Home เชิญชวนพนักงานออกกำลังกายและวัดผลจากการเผาผลาญแคลอรี่ส่งมาร่วมรับของรางวัล กิจกรรมออกกำลังกายตามกรุ๊ปเลือด โดยการส่งภาพถ่ายขณะออกกำลังกายพร้อมระบุเหตุผลที่เลือกการออกกำลังกายนั้นๆ
  • จัดตั้งกลุ่มคนสุขภาพดี ร่วมสร้างสังคมสุขภาพดีให้สมาชิกได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ ร่วมกิจกรรมสุขภาพและเข้าถึงข้อมูลสุขภาพต่างๆ

2. โปรแกรมลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย

โครงการส่งเสริมความปลอดภัยในการขับขี่สำหรับพนักงานร้าน 7-Eleven

บริษัทมามาตรการให้พนักงานจัดส่งสินค้า (Reder) ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด อาทิ สวมหมวกกันน็อก มีใบขับขี่ พ.ร.บ. มีประกันภาคสมัครใจ ผ่านการอบรมขับขี่ปลอดภัย โดยบริษัทมีการทบทวนและสื่อสารด้านความปลอดภัยในการขับขี่ในขณะปฏิบัติงาน ดังนี้


1. ปรับปรุงมาตรการความปลอดภัยในการใช้ยานยนต์
  • 7 ข้อปฏิบัติ และ 11 ข้อห้ามปฏิบัติของพนักงาน สำหรับร้าน 7-Eleven
  • การตรวจสอบความพร้อมของยานยนต์
  • ข้อร้องเรียน บทบาทผู้เกี่ยวข้องและบทลงโทษ

2. สร้างนวัตกรรมการขับขี่ปลอดภัย
  • อบรมให้ความรู้เรื่อง "ขับขี่ปลอดภัย"
  • การสื่อสารเชิงรุกด้วยสื่อรณรงค์ที่เข้าใจง่ายสำหรับพนักงานร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ อาทิ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Books) คลิปวิดีโอ โปรสเตอร์ 7 ต้อง 11 ห้าม และการวัดผลการรับรู้ข่าวสารของพนักงานเป็นรายสัปดาห์

3. สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันอุบัติเหตุ
  • อุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลขณะขับขี่ สำหรับพนักงานจัดส่งสินค้า (Rider) อาทิ เสื้อพนักงานติดแถบสะท้อนแสงชุดจับมือถือจักรยานยนต์

4. เพิ่มความเข้มข้นมาตรการการกำกับดูแลและตรวจสอบการปฏิบัติงานของพนักงานจัดส่งสินค้า (Rider)
  • กำหนดมาตรการความปลอดภัยในการใช้ยานยนต์ สำหรับร้าน 7-Eleven
  • จัดทำทะเบียนพนักงานจัดส่งสินค้า
  • ตรวจสอบข้อมูลพนักงานจัดส่งสินค้า และวัดผลการรับรู้ข้อมู ล "ขับขี่ปลอดภัย"
  • พนักงานจัดส่งสินค้าตรวจสอบความพร้อมก่อนขับขี่ด้วยตนเองและโดยหัวหน้างาน ตามหัวข้อในแบบบันทึกข้อมูล ขับขี่ปลอดภัย
  • สุ่มตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ไม่ปลอดภัย พร้อมหลักฐานการขับขี่จากกล้อง CCTV โดยหน่วยงานประกันคุณภาพมาตรฐานร้านทุกเดือน
  • รายงานอุบัติเหตุผ่านระบบ Call Center ภายใน 15 นาที และไต่สวนอุบัติเหตุภายใน 5 วัน
  • ติดตั้ง Application Last Mile สำหรับตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานจัดส่งสินค้า รวมถึงแจ้งเตือนล่วงหน้า 30 วัน ก่อนใบขับขี่ ภาษีรถจักรยายนต์ และ พ.ร.บ. หมดอายุ

5. ทดลองใช้รอมอร์เตอร์ไซค์ไฟฟ้า

จำกัดความเร็วไม่เกิน 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เพื่อควบคุมความเร็ว ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อีกทั้งยังช่วยลดมลพิษให้กับชุมชน ปัจจุบันอยู่ระหว่างทดลองใช้ในร้าน 7-Eleven จำนวน 1,104 สาขา

ที่ผ่านมาบริษัทได้มีการติดตามรายงานการเกิดอุบัติเหตุ โดยในปี 2565 บริษัทจึงมีการดำเนินการระหว่างสำนักปฏิบัติการ 4-BS (สุขุมวิท 79) ร่วมมือกับศูนย์ฝึกขับขี่ฮอนด้า โดยมีอาจารย์ผู้ฝึกสอน ผู้เชี่ยวชาญด้านการขับขี่ปลอดภัย จัดอบรมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติบนสนามฝึกที่เป็นมาตรฐาน บริษัทตั้งเป้าให้พนักงานทุกคนทั่วประเทศได้รับการอบรมตามมาตรฐาน และสามารช่วยกันลดอุบัติเหตุให้เป็นศูนย์ได้


โครงการฝึกอบรมการเรียนรู้ด้านความปลอดภัย (Safety DOJO) สำหรับพนักงานในสายการผลิต

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ส่งเสริมสร้างควมเข้าใจและจิตสำนึก สร้างความตระหนักถึงพฤติกรรมความปลอดภัยให้กับพนักงานทุกคนเพื่อลดความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุในการทำงาน สร้างเครื่องมือจำลองอุบัติเหตุในทุกสาขาภูมิภาคเพื่อใช้สำหรับการฝึกอบรม เช่น สถานีแต่งตัวและการใช้อุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล และสถานีอันตรายจากลื่นล้ม เป็นต้น โครงการนี้เป็นโครงการสนับสนุนเป้าหมายลดอุบัติเหตุจากการทำงานเป็นศูนย์ ภายในปี 2573 โดยเป็นการจัดสถานที่ฝึกอบรมให้เป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านความปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ มีสถานีจำลองแสดงความเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุจากสถานการณ์ต่างๆ

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

  

อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงานลดลง


โครงการฝึกอบรมพนักงานรักษาความปลอดภัย

ซีพี ออลล์ ระบุให้บริษัทรักษาความปลอดภัยต้องดำเนินการฝึกอบรมความรู้ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงาน อาทิ นโยบายและขั้นตอนการปฏิบัติงานที่เกี่ยวกับด้านสิทธิมนุษยชน ได้แก่ ความมั่นคงปลอดภัยเป็นสิทธิขั้นพื้นนฐานของทุกคน ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้อื่นแม้เป็นผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่มีสิทธิ์จับกุมผู้ใดยกเว้นผู้กระทำผิดซึ่งหน้า และผู้ถูกกล่าวหามีสิทธิ์ที่จะได้รับการสันนิษฐานว่าบริสุทธิ์จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่ามีความผิดตามกฎหมาย ได้แก่ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทุกคนก่อนเข้าปฏิบัติงาน โดยในปี 2565 ไม่มีข้อร้องเรียนด้านสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบริษัท

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

  

พนักงานรักษาความปลอดภัยสัญญาจ้างจากบริษัทภายนอกได้รับการฝึกอบรม

3. โปรแกรมลดความเสี่ยงด้านการยศาสตร์ และการจัดการความเครียด

โครงการยืดเหยียดลดโรค

โครงการยืดเหยีดลดโรคในรูปแบบออนไลน์ ดำเนินงานต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทงาด้านกายภาพบำบัด และแพทย์แผนไทยของ eXta Health & Wellness มาให้ความรู้ทางด้านสุขภาพเกี่ยวกับโรคออฟฟิศซินโดรม (Office Syndrome) แก่ผู้บริหารและพนักงานพร้อมคำแนะนำเรื่องท่าทางการทำงานที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อ ในปี 2565 มีพนักงานและผู้บริหารเข้าร่วมจำนวน 82 ราย


โครงการศูนย์สุขภพ CPAL Health Care Center

บริษัทดำเนินโครงการศูนย์สุขภาพ Health Care Center สำหรับดูแลสุขภาพของพนักงานต่อเนื่อง ผ่านการร่วมมือจากบุคลากรทางการแพทย์ทั้งทีมแพทย์ พยาบาล นักกายภาพบำบัด จากโรงพยาบาลรามาธบดี โดยมีการดูแลผ่านบริการ 5 ด้านหลัก ดังนี้ 1) ตรวจรักษาโรคทั่วไป 2) ตรวจรักษาโรงเฉพาะทาง อาทิ โรคกระดูก โรคผิดหนัง โรคตา-หู-คอ-จมูก 3) การภาพบำบัด (ตามดุลยพินิจของแพทย์) 4) เตรีบสังเกตุอาการหรือพักฟื้น และ 5) ให้บริการช่วยเหลือกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือวิกฤต

นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการอื่นๆ อาทิ ใบสั่งยาสำหรับพนักงานที่มีใบสั่งยาหรือใบรับรองแพทย์โดยพนักงานไม่ต้องสำรองจ่าย และสามารถเลือกรับยาได้จากที่บ้านหรือที่ทำงาน ส่งเสริมการเข้าถึงวัคซีนตามสิทธิให้พนักงานทุกระดับ และจัดหาวัคซีนป้องกันโรคต่างๆ เพิ่มเติมให้พนักงานให้บริการบำบัดฟื้นฟูอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตึง ขาอ่อนแรง ปวดหลัง หรือมีอาการออฟฟิศซินโดรม พร้อมทั้งให้บริการคำปรึกษาและดูแลสุขภาพ โดยนักกายภาพบำบัดผู้เชี่ยวชาญ ในปี 2565 มีพนักงานและผู้บริหารเข้าร่วมโครงการ จำนวน 7,924 ราย


โครงการยกระดับการพัฒนาดูแลสุขภาวะแบบองค์รวม

บริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาแบบองค์รวม จึงได้ริเริ่มดำเนินโครงการในลักษณะการปรับปรุงกระบวนการข้ามสายงาน (Cross Functional Process Improvement) ผ่านโครงการ "ยกระดับการพัฒนาดูแลสุขภาวะแบบองค์รวม" (Holistic Health & Well-Being) เพื่อส่งเสริมสุขภาวะที่ดีให้แก่พนักงานในการดำเนินชีวิตอย่างสมดุลครบทุกมิติ และปลูกฝังทัศนคติให้พนักงานในการดูแล พัฒนาชีวิต และจัดการภาวะความเครียด ผ่านกิจกรรมต่างๆ ปี 2565 ได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อปลูกฝังทัศนคติในการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิต และแนะนำเทคนิคการดูแลสุขภาพด้วยหลากหลายวิธีเพื่อให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ โดยมีการจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติ (Workshop) เช่น กิจกรรมจัดกิจกรรม "กดจุดกระตุ้นพลังงานชีวิต" ซึ่งเน้นเทคนิคการกดจุด นวดหน้าและศีรษะ เพื่อเสริมสร้างความผ่อนคลาย และลดความตึงเครียดให้กับสมองและจิตใจ รวมถึงการสอนวิธีการทำน้ำจุลินทรีย์โปรไบโอติกส์ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย กิจกรรม "มหัศจรรย์แห่งชีวิต & มหัศจรรย์แห่งความสุข (ALL Oneness & Miracel of Life) โดยผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะบำบัด ซึ่งเป็นการปลูกฝังทัศนคติในการสร้างความสุขในชีวิตให้กับพนักงานด้วยหลักการ ikigai และเทคนิคสีบำบัด (Art Therapy) เพื่อให้พนักงานได้ทราบถึงวิธีการในการเสริมสร้างสุขในชีวิตประจำวัน รวมถึงการบำบัดภาวะซึมเศร้าด้วยศิลปะ

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรม "ดนตรีเพื่อสุขภาวะภาย & ใจ (Sound Healing)" เพื่อลดความเครียดและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งช่วยในการนอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านคลื่นเสียงบำบัด และนักคลื่นเสี่ยงบำบัด มาร่วมแนะนำและให้คำปรึกษารวมถึงใช้กระบวนการบำบัดด้วยพลังงาน (Rekik Healing) และการรักษาด้วยคริสตัล (Crystal Singing Bowl & Therapy) และขันทิเบตบำบัด (Tibetan Bowl Sound Healing) เพื่อบำบัดร่างกายและจิตใจในระดับลึกด้วยคลื่นพลังงานของเสียง มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 40 ราย

ขั้นตอนการตรวจสอบการบาดเจ็บ การเจ็บป่วย โรคและเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน

การตรวจสอบการบาดเจ็บจากการทำงาน

การตรวจสอบการบาดเจ็บจากการทำงาน กลุ่ม Rider

การตรวจสอบโรคทั่วไป / โรคจากการทำงาน

การฝึกอบรม OHS ที่จัดให้กับพนักงานและ/หรือฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความตระหนักและลดเหตุการณ์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยในการปฏิบัติงาน

บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาความรู้ ความสามารถของบุคลากร สร้างความตระหนัก การสื่อสารข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นให้กับผู้มีส่วนได้เสีย รวมถึงวิเคราะห์หาความจำเป็นในการฝึกอบรม และดำเนินการอบรม ให้ความรู้ในหลักสูตรที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัยสำหรับการปฏิบัติงานที่มีความเสี่ยง ผ่านโครงการที่หลากหลาย ดังนี้

โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการคณะกรรมการความปลอดภัย มุ่งสู่อุบัติเหตุเป็นศูนย์

โครงการอบรมระบบการจัดการด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาบุคลากร

โครงการอบรมเพิ่มทักษะขับขี่ปลอดภัยให้กับพนักงานสายปฏิบัติการร้าน 7-Eleven

โครงการสร้างความตระหนัก ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้านความปลอดภัยให้กับพนักงานศูนย์กระจายสินค้าและผู้รับเหมาขนส่ง (Kiken Yochi Training : KYT)

โครงการอบรมสอบใบขับขี่รถ PT รถ Fork Lift ชั่วคราว ภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ ให้กับผู้ขับขี่

โครงการอบรมผู้รับเหมาก่อสร้างเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย ก่อนเข้าทำงานในร้าน 7-Eleven และพื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่โรงงาน ซีพี แรม

โครงการอบรมผู้รับเหมาขนส่ง หลักสูตรการขับรถบรรทุกอย่างมืออาชีพ

การนำเกณฑ์ OHS มาใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างและข้อกำหนดตามสัญญา

บริษัทตระหนักถึงสิทธิด้านความมั่นคงปลอดภัยของ โดยมุ่งเป็นองค์กรที่ปราศจากอุบัติเหตุ ภายในปี 2573 รวมถึงมอบความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีแก่พนักงาน บริษัทจึงดำเนินการจัดสภาพแวดล้อม และพื้นที่การทำงานให้ปลอดภัยตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยกำหนดคณะกรรมการตรวจประเมินประสิทธิผลการจัดการด้านความปลอดภัยอาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อม ทำหน้าที่กำหนดนโยบาย แนวทางการดำเนินงาน และแผนการพัฒนาระบบอาชีวอนามัยและความปลอดภัย พร้อมทั้งดำเนินตลอดจนยกระดับการจัดการให้เทียบเคียงระดับสากล เพื่อดูแลพนักงานให้มีสภาพการทำงานที่ปลอดภัย และไม่ส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมทั้งภายใน และภายนอกองค์กร

ข้อมูลอื่นๆ


ผลการดำเนินงานด้านการดูแลความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน

มาตรฐาน GRI ข้อมูล หน่วย 2562 2563 2564 2565
ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง ชาย หญิง
พนักงาน
403-9 (a) 2018 - จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการทำงาน ราย 0 2 5 0
0 0 2 0 2 3 0 0
- อัตราผู้เสียชีวิต กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0 0.008 0.013 0
0 0 0.02 0 0.013 0.013 0 0
- จำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) ราย 0 1 3 2
0 0 0 1 2 1 1 1
- อัตราผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0 0.004 0.01 0.01
0 0 0 0.01 0.01 0.004 0.01 0.004
- จำนวนผู้บาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมด ราย 272 539 771 720
170 102 252 287 351 420 366 354
- อัตราการบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมด กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 1.22 2.14 2.00 1.93
2.27 0.69 3.02 1.99 2.23 1.84 2.74 1.49
- อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0.71 1.66 1.69 1.65
1.28 0.43 2.21 1.38 1.80 1.62 2.22 1.29
- จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม ชั่วโมง 222,630,585 251,718,321 386,155,115 372,331,111
74,829,447 147,801,138 83,430,837 168,287,484 157,467,972 228,687,144 135,490,551 236,840,560
403-10 (a) 2018 - จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคจากการทำงาน ราย 0 0 0 0
0 0 0 0 0 0 0 0
- จำนวนกรณีที่เจ็บป่วยจากการทำงานทั้งหมด กรณี 0 0 1 0
0 0 0 0 1 0 0 0
- อัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการทำงานทั้งหมด (OIFR) กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0 0 0.003 0
0 0 0 0 0.01 0 0 0
ผู้รับเหมา
403-9 (b) 2018 - จำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดจากการทำงาน ราย 0 3 9 12
0 0 2 1 8 1 7 5
- อัตราผู้เสียชีวิต กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0 0.01 0.03 0.05
0 0 0.02 0.01 0.05 0.01 0.07 0.03
- จำนวนผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) ราย 0 0 2 1
0 0 0 0 1 1 0 1
- อัตราผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0 0 0.007 0.004
0 0 0 0 0.01 0.01 0 0.01
- จำนวนผู้บาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมด ราย 96 120 306 267
68 28 71 49 186 120 153 114
- อัตราการบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมด กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 1.51 0.52 1.00 1.01
20.2 0.93 .080 0.34 1.16 0.82 1.42 0.72
- อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0.99 0.37 0.74 0.80
1.28 0.67 0.52 0.28 0.73 0.75 1.10 0.59
- จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม ชั่วโมง 63,698,344 232,938,058 306,063,307 264,671,376
33,717,995 29,980,349 88,997,868 143,940,189 160,289,943 145,773,363 107,389,032 157,282,344
403-10 (b) 2018 - จำนวนผู้เสียชีวิตด้วยโรคจากการทำงาน ราย 0 0 0 0
0 0 0 0 0 0 0 0
- จำนวนกรณีที่เจ็บป่วยจากการทำงานทั้งหมด กรณี 0 0 1 0
0 0 0 0 1 0 0 0
- อัตราการเจ็บป่วยด้วยโรคจากการทำงานทั้งหมด (OIFR) กรณี/1,000,000 ชั่วโมงการทำงาน 0 0 0 0
0 0 0 0 0 0 0 0

หมายเหตุ
1) ประเภทของการบาดเจ็บเกี่ยวเนื่องจากอุบัติเหตุ กรณีของการบาดเจ็บรุนแรงสูง ของพนักงาน และผู้รับเหมาปี 2565 ประกอบด้วย
- พนักงาน จำนวน 2 เคส ประเภท ทุพพลภาพ (สูญเสียอวัยวะ แขน ขา)
- ผู้รับเหมา จำนวน 1 เคส ประเภท ทุพพลภาพ (สูญเสียอวัยะ แขน ขา)
2) ปี 2565 ขยายของเขตการรายงานข้อมูลพนักงาน ครอบคลุมบริษัทย่อย ดังนี้
- บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด เริ่มรายงานข้อมูล ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นไป
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ขยายของเขตครอบคลุม พื้นที่สายการศึกษา และบริษัท ซีพีแรม จำกัด รายงานครอบคลุมทุกพื้นที่
3) ปี 2565 ขยายขอบเขตการรายงานข้อมูลกลุ่มผู้รับเหมา ดังนี้
- บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) รายงานข้อมูลของผู้รับเหมาลากสินค้าภายในศูนย์กระจายสินค้า
- บริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด รายงานข้อมุลของผู้รับเหมางานก่อสร้าง ผู้รับเหมาจัดการสิ่งอำนวยความสะดวก (Facility Management) เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) แม่บ้าน พนักงานแนะนำสินค้าที่สาขา (PC) พนักงานร้านขายอาหารสำหรับพนักงาน พนักงานร้านค้าเช่า และพนักงานขนส่งสินค้า
- บริษัท ซีพีแรม จำกัด รายงานข้อมูลของผู้รับเหมาจำหน่ายอาหารในโรงงาน พยาบาล และผู้ส่งสินค้า
4) สูตรคำนวณข้อมูลความปลอดภัย ปี 2565 ดังนี้
- อัตราผู้บาดเจ็บทั้งหมดที่มีความรุนแรงสูง (ไม่รวมเสียชีวิต) = จำนวนราย (กรณี) ของผู้ปฏิบัติงานที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่ส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บ โดยที่ผู้ปฏิบัติงานไม่สามารถฟื้นตัวสูสถานะก่อนการเกิดบาดเจ็บภายใน 6 เดือน (ในช่วงเวลาที่รายงานผล) X 1,000,000 (ชั่วโมงการทำงาน) / จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม (ในช่วงเวลาที่รายงานผล)
- อัตราการบาดเจ็บที่บันทึกทั้งหมด = จำนวนราย (กรณี) ของผู้ปฏิบัติงานที่บาดเจ็บจากอุบัติเหตุจากการทำงาน (นับรวมตั้งแต่ ได้รับการรักษามากกว่าปฐมพยาบาล หรือ ถูกจำกัดการทำงาน หรือถูกโอนย้ายไปปฏิบัติงานในหน้าที่อื่นชั่วคราว แต่ไม่หยุดงาน, หยุดงานตั้งแต่ 1 วันขึ้นไป, หยุดงานตั้งแต่ 6 เดือนขึ้นไป, ทุพพลภาพ จนถึงเสียชีวิต) (ในช่วงเวลาที่รายงานผล) X 1,000,000 (ชั่วโมงการทำงาน) / จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม (ในช่วงเวลาที่รายงานผล)
- อัตราการบาดเจ็บถึงขั้นหยุดงานจากการทำงาน = จำนวน (กรณี) ของการบาดเจ็บจนถึงขั้นหยุดงานอันเนื่องมาจากอุบัติเหตุจากการทำงาน (ในช่วงเวลาที่รายงานผล) X 1,000,000 (ชั่วโมงการทำงาน) / จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม (ในช่วงเวลาที่รายงานผล)
- อัตราการเจ็บป่วยจากการทำงานทั้งหมด = จำนวนราย (กรณี) ที่เจ็บป่วยจากการทำงาน จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม (ในช่วงเวลาที่รายงานผล) X 1,000,000 (ชั่วโมงการทำงาน) / จำนวนชั่วโมงการทำงานรวม (ในช่วงเวลาที่รายงานผล)

นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

นโยบายความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมการทำงาน ดาวน์โหลด
ประกาศเจตนารมณ์การนำระบบ ISO45001:2008 ดาวน์โหลด

เว็บไซต์ cpall.co.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายการใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า