ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับการดูแลสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ทำให้ล่าสุด ซีพี ออลล์ ผู้ก่อตั้งร้านเซเว่น อีเลฟเว่นในประเทศไทย ได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืนระดับโลก FTSE4Good Index ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 โดยฟุซซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ซึ่งเป็นหนึ่งในดัชนีชั้นนำด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ที่ประเมินศักยภาพขององค์กรใน ด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance : ESG) สะท้อนถึงความรับผิดชอบขององค์กรต่อสิ่งแวดล้อม และสังคม รวมถึงการมีธรรมาภิบาลที่ดี
นายธานินทร์ บูรณมานิต กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ซีพี ออลล์ กล่าวว่า หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของซีพี ออลล์ กว่า 30 ปีที่ผ่านมา คือบริษัทตระหนักและให้ความสําคัญกับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามปณิธานองค์กร “ร่วมสร้างสรรค์ และแบ่งปันโอกาสให้ทุกคน” ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยยึดหลัก 3 ประโยชน์เพื่อ ประเทศ ประชาชน และบริษัท ตามยุทธศาสตร์ความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นแนวคิดที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องและเป็นรูปธรรมการได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนีความยั่งยืน FTSE4Good Index ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ถือเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของผู้บริหาร และพนักงานซีพี ออลล์ ทุกคน
ซีพี ออลล์ ได้คะแนนสูงขึ้นอย่างชัดเจนในหลายๆ ด้าน ได้แก่ด้านสิ่งแวดล้อม เห็นได้จากการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านอนุรักษ์พลังงาน และสิ่งแวดล้อมของบริษัท ภายใต้โครงการ 7 Go Green อาทิ โครงการรณรงค์ลด และ เลิก ใช้ถุงพลาสติก ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ผ่านโครงการ “รักษ์อันดามัน ร่วมใจลดใช้ถุงพลาสติก” และโครงการ “ลดวันละถุง คุณทำได้” นับตั้งแต่เริ่มโครงการจนถึงปัจจุบัน สามารถลดการใช้ถุงพลาสติกไปได้มากกว่า 500 ล้านใบ อีกทั้งในร้านเซเว่นยังได้เปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ทั้งถุงกระดาษ และแก้วแบบย่อยสลายได้ นำร่อง 300 สาขา นอกจากนี้ยังได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงกับองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) และโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย(UNDP Thailand) ร่วมมือเน้นการลดใช้ถุงพลาสติกและเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน เพื่อมุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นตัวการสำคัญที่ก่อให้เกิดภาวะโลกร้อน และสร้างเมืองให้มุ่งสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ซีพี ออลล์ ยังได้คะแนน ด้านสังคม สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทยึดมั่นพัฒนาการดำเนินงานด้านแรงงานและสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่การผลิตของบริษัทสอดคล้องกับมาตรฐานสากลตลอดจนช่วยสนับสนุนส่งเสริมสินค้าเอสเอ็มอีและสินค้าภาคการเกษตรจากชุมชนจำหน่ายผ่านร้านเซเว่นฯและ 24 Shopping มาโดยตลอดและคำนึงถึงความสำคัญของลูกค้าให้ได้รับสินค้าและบริการที่มีคุณภาพและตรงตามความต้องการอย่างสม่ำเสมอ
สำหรับคะแนน ด้านธรรมาภิบาล ยังคงคะแนนอยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่องเช่นกัน โดยเฉพาะหัวข้อการต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน โดยบริษัทได้ประกาศเป็นนโยบายสำคัญขององค์กร มีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และจัดอบรมให้ความรู้ จัดกิจกรรมต่างๆ อาทิ “งานประกาศเจตนารมณ์ ซีพี ออลล์ องค์กรธรรมาภิบาลและต่อต้านคอร์รัปชัน” จัด โครงการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ด้านธรรมาภิบาล เพื่อสร้างพลังขับเคลื่อนและยกระดับองค์กรธรรมาภิบาล พร้อมกำหนดแนวทางปฏิบัติต่อคู่ค้าหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทางธุรกิจทุกกลุ่ม ตลอดจนจัดให้มีช่องทางในการรับแจ้งเบาะแสหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการคอร์รัปชันทั้งภายในและภายนอกองค์กร
นับเป็นความต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2560 ที่ผ่านมา ซีพี ออลล์ได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิก Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) กลุ่ม World Index และกลุ่ม Emerging Markets Index และการได้รับคัดเลือกให้เป็นสมาชิกดัชนี FTSE4Good Index ในครั้งนี้เป็นการยืนยันให้เห็นว่า ซีพี ออลล์ มีการดำเนินธุรกิจตามแนวทางพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยบริหารธุรกิจให้เกิดสมดุลย์ทั้ง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม อย่างมีธรรมาภิบาล เป็นที่ยอมรับในระดับสากล