วิกฤตพลังงานจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เป็นหนึ่งในสาเหตุความผันผวนของพลังงานและภาวะขาดแคลนพลังงานในตลาดโลก จากวิกฤตดังกล่าวส่งผลให้แนวโน้มการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเปลี่ยนไป ทั่วโลกได้ประกาศแผนลดการใช้พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิลและเร่งการเปลี่ยนผ่านการใช้พลังงานไปสู่พลังงานสะอาดและพลังงานหมุนเวียน การเปลี่ยนแปลงแนวโน้มการใช้พลังงานดังกล่าวสอดคล้องกับแนวทางการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับโลก อีกทั้งอุณหภูมิโลกที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้เกิดสภาวะขาดแคลนทรัพยากรน้ำ ภัยแล้ง ซึ่งคุกคามต่อสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะในด้านสุขภาพและการดำรงชีวิตจากการขาดแคลนอาหารและน้ำที่สะอาด

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้เตรียมพร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว โดยดำเนินการตามนโยบายการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง มุ่งมั่นพัฒนาพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ พลังงานชีวมวล รวมไปถึงการใช้รถยนต์ขนส่งพลังงานไฟฟ้า เป็นต้น อีกทั้งบริษัทยังให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำซึ่งเป็นทรัพยาสำคัญต่อการดำรงชีวิตและการดำเนินธุรกิจ และสามารถเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สำคัญในอนาคต

บริษัทมุ่งเพิ่มสัดส่วนและพัฒนาพลังงานหมุนเวียน เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ และบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดความเสี่ยงการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการเข้าถึงน้ำที่สะอาด ตลอดจนสนับสนุนโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ อนุรักษ์น้ำ ควบคู่ไปกับการตั้งเป้าหมายการลดการใช้พลังงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามผลการใช้พลังงานและลดความรุนแรงของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจ รวมไปถึงสิทธิมนุษยชน