สร้างสรรค์คุณค่าเพื่อสังคมส่วนรวม

การสร้างคุณค่าทางสังคมและสนับสนุนในระบบเศรษฐกิจ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2567


เอสเอ็มอีที่ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้

จ้างงานผู้สูงอายุ

เกษตรกรในห่วงโซ่อุปทานได้รับการพัฒนาทักษะ งานอาชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้

มูลค่าการรับซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชน

กลุ่มเปราะบางไที่ได้รับการพัฒนาทักษะอาชีพ สร้างงาน เพิ่มรายได้

มอบทุนการศึกษาให้กับเยาวชนและผู้ด้อยโอกาส

จ้างงานแรงงานท้องถิ่น (เฉพาะพนักงานที่ปฏิบัติงานในร้าน 7-Eleven)

ชุมชนและหน่วยงานภาคประชาสังคมได้รับการช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัย อาทิ ภัยพิบัติทางธรรมชาติ การป้องกัน และควบคุมโรคติดต่อ

การดำเนินงานที่สำคัญปี 2567


ศูนย์เซเว่น อีเลฟเว่น สนับสนุนเอสเอ็มอี ดำเนินงานต่อเนื่องตามนโยบาย 3 ให้ได้แก่ การเชื่อมโยงเข้าถึงบริการเครือข่าย พันธมิตรเพื่อรับคำปรึกษา ให้ความรู้เพิ่มศักยภาพ พัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิต ให้โอกาสช่องทางขาย สนับสนุน การเติบโตสู่ตลาด Modern Trade อย่างมั่นคง

ดำเนินการโครงการความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตร ในการส่งเสริมพัฒนาศักยภาพให้กับ เอสเอ็มอี ผู้ประกอบการวิสาหกิจ ชุมชน เกษตรกร อาทิ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หอการค้าไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กระทรวงพาณิชย์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น

ดำเนินการโครงการ Business Matching ทั้ง Off-Line และ On-Line ผ่านระบบ CP ALL SME Platform รวมถึงปัจจุบัน มีการขยายโอกาสถึง SME Franchise สร้างธุรกิจให้เติบโตไปกับร้านสาขาที่เป็นโมเดล 7 ชุมชน

ดำเนินการโครงการตลาดนัดชุมชน สนับสนุนช่องทางการขายทั้งภายในและภายนอกของบริษัท อาทิ โครงการเปิดโอกาส สร้างอาชีพกับ ALL SME MARKET PLACE ของ ซีพี ออลล์, โครงการตลาดนัด SME สัญจร และ SME Fair ของ ซีพี แอ็กซตร้า

ศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ ALL FOOD TECH ยกระดับคุณภาพสินค้าของผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดกลางและ ขนาดเล็ก ผ่านการรับรองคุณภาพ เพิ่มโอกาส ในการขาย

ดำเนินการโครงการตำรวจท่องเที่ยว X 7-Eleven เปิดจุดรับแจ้งเหตุสำหรับนักท่องเที่ยว

สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน


SDG 1 ขจัดความยากจนทุกรูปแบบในทุกที่

1.2 ลดสัดส่วนชาย หญิง และเด็กใทุกช่วงวัย ที่อยู่ภายใต้ความยากจนในทุกมิติ
1.3 ดำเนินการให้เป็นผลตามะบบและมาตรการคุ้มครองทางสังคมที่เหมาะสม และให้ครอบลุมถึงกลุ่มที่ยากจนและเปราะบาง

SDG 2 ยุติความหิวโหย บรรลุความมั่นคงทางอาหาร และยกระดับโภชนาการ และส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืน

2.3 เพิ่มผลิตภาพทางการเกษตรและรายได้ของผู้ผลิตอาหารรายเล็ก โดยเฉพาะผู้หญิง คนพื้นเมือง เกษตรกรแบบครอบครัว คนเลี้ยงปศุสัตว์ ชาวประมง โดยรวมถึงการเข้าถึงที่ดินทรัพยากร และปัจจัยนำเข้าในการผลิต ความรู้ บริการทางการเงิน ตลาด และโอกาสสำหรับการเพิ่มมูลค่าและการจ้างงาน
2.4 สร้างหลักประกันว่าจะมีระบบการผลิตอาหารที่ยั่งยืนและดำเนินการตามแนวปฏิบัติทางการเกษตรที่มีภูมิคุ้มกัน ที่จะเพิ่มผลิตภาพและการผลิต ซึ่งจะช่วยรักษาระบบนิเวศ เสริมขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวอากาศรุนแรง ภัยแล้ง อุทกภัย และภัยพิบัติอื่นๆ และจะช่วยพัฒนาที่ดินและคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

SDG 8 ส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องและยั่งยืน การจ้างงานที่เหมาะสมสำหรับทุกคน

8.3 ส่งเสริมนโบายที่มุ่งการพัฒนาที่สนับสนุนกิจกรรมที่มีผลิตภาพ การสร้างงานที่สมควร ความเป็นผู้ประกอบการ ความสร้างรรค์และนวัตกรรม และส่งเสริมการเกิดและการเติบโตของวิสาหกิจรายย่อย ขนาดเล็กและขนาดกลาง ซึ่งรวมถึงผ่านทางการเข้าถึงบริการทางการเงิน

SDG 10 ลดความไม่เสมอภาคภายในและระหว่างประเทศ

10.1 ให้บรรลุอย่างต่อเนื่องและคงการเติบโตของรายได้ในกลุ่มประชากรที่ยากจน

SDG 11 ทำให้เมืองและการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์มีความครอบคลุม ปลอดภัย มีภูมิต้านทางและยั่งยืน

11.5 ลดจำนวนการตายและจำนวนคนที่ได้รับผลกระทบ และลดการสูญเสียโดยตรงและเศรษฐกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของโลกที่เกิดจากภัยพิบัติ ซึ่งรวมถึงภัยพิบัติที่เกี่ยวกับน้ำ โดยมุ่งเป้าปกป้องคนจนและคนที่อยู่ในสถานการณ์ที่เปราะบาง

ผลการดำเนินงานเทียบเป้าหมาย


ผลการประเมินประเด็นด้านความยั่งยืนแบบ
“ทวิสารัตถภาพ”

มิติด้านความยั่งยืน

  • มิติสังคม

ระดับผลกระทบเพื่อนำมาประยุกต์ใช้
ในการดำเนินธุรกิจ

  • สำคัญมาก (Critical Material Topics)

เป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว และความก้าวหน้าเทียบกับเป้าหมาย

พัฒนาทักษะ ส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างรายได้สำหรับผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม
ผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกรรวมถึงกลุ่มเปราะบางตลอดห่วงโซ่อุปทาน

สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2567

1. สร้างคน

ทุนการศึกษาสำหรับเยาวชนและผู้ด้อยโอกาสในชุมชน

มูลค่าการสนับสนุนโอกาสการเข้าถึงการศึกษา

2. สร้างงาน

สนับสนุนการสร้างงานและส่งเสริมรายได้แก่กลุ่มเปราะบาง

การจ้างงานโดยบริษัท จำแนกตามกลุ่มเป้าหมาย

แรงงานท้องถิ่น 44540 ราย
แรงงานข้ามชาติ 3815 ราย
ผู้สูงอายุ 418 ราย
ผู้พิการตามกฎหมาย 1691 ราย

สนับสนุนการสร้างงานและส่งเสริมรายได้ให้แก่กลุ่มเปราะบาง

3. สร้างอาชีพ สร้างรายได้

สร้างอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้แก่เอสเอ็มอี

จำแนกเอสเอ็มอี ตามลักษณะธุรกิจ

ผู้จำหน่ายสินค้าอุปโภค บริโภค 63881 ราย
ผู้ให้บริการและผู้รับเหมา 87928 ราย
ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน 553 ราย
ผู้ประกอบการรายย่อย 12504 ราย
อื่นๆ 9508 ราย

หมายเหตุ : กลุ่มสินค้าอุปโภค บริโภค ครอบคลุมสินค้าเกษตร สินค้าเกษตรแปรรูป

มูลค่าการสนับสนุนผลิตภัณฑ์
บริการจากเอสเอ็มอี

สร้างอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้แก่เกษตรกร

จำแนกเกษตรกร ตามผลิตภัณฑ์

ผัก 1929 ราย
ผลไม้ 1665 ราย
เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ 161 ราย
อื่นๆ 48 ราย

มูลค่าการสนับสนุนผลิตภัณฑ์
จากเกษตรกร

สร้างอาชีพ ส่งเสริมรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน

มูลค่าการสนับสนุน

4. สร้างชุมชนอุ่นใจ

การสนับสนุนทางสังคม จำแนกตามประเภท

การบริจาคเพื่อการกุศล

การร่วมลงทุนทางสังคม

กิจกรรมเชิงพาณิชย์

การสนับสนุนทางสังคม จำแนกตามรูปแบบ

เงินบริจาค

จำนวนชั่วโมงจิตอาสาของพนักงานที่ได้รับค่าจ้าง

สิ่งของ

ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการ

หมายเหตุ : ความหมาย/ขอบเขต "ชุมชน" ตามที่บริษัทกำหนด หมายถึง คณะบุคคล ผู้ประกอบการ เยาวชน กลุ่มเปราะบาง ที่อยู่โดยรอบพื้นที่ดำเนินการสำคัญของบริษัท
1) รอบร้าน 7-Eleven ภายในรัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร
2) ศูนย์กระจายสินค้า ภายใจรัศมี 5-10 กิโลเมตร
3) ศูนย์กระจายสินค้าแม็คโคร โลตัส สถานประกอบการผลิตภายในรัศมี 5-10 กิโลเมตร

ความเสี่ยงและโอกาส


ทั่วโลกกําลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงที่ซับซ้อนและรวดเร็วในหลายมิติ อาทิ การสร้างนวัตกรรมเพื่อการดําเนินธุรกิจ การตลาดรูปแบบใหม่ การเปลี่ยนแปลงทางธรรมชาติและสภาพภูมิอากาศ การเพิ่มขึ้นของจํานวนประชากร การเคลื่อนย้ายถิ่นฐาน การเผชิญหน้ากับเหตุสงคราม ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคมอย่างมีนัยยะ โดยเฉพาะในกลุ่มคนชายขอบและกลุ่มเปราะบาง อาทิ การเข้าถึงการศึกษา การเข้าถึงแหล่งเงินทุนหรือการประกอบอาชีพ การเข้าถึงแหล่งที่อยู่อาศัยที่ดี บริการสุขภาพ ซึ่งอาจส่งเสริมแรงขับเคลื่อนในอนาคต

ดังนั้น ภาคธุรกิจจําเป็นต้องดําเนินกิจกรรมทางธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ ให้ความสําคัญกับการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในด้านบวกและด้านลบ ลดผลกระทบเชิงลบจากการดําเนินกิจกรรมทางธุรกิจต่อคุณภาพชีวิตพลเมืองขั้นพื้นฐานของชุมชนและผู้ส่วนได้เสีย นอกจากนี้ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงระดับรากฐาน (Transformation) ภาคธุรกิจต้องพัฒนาแนวทางการดําเนินงาน ที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ เข้าใจบริบททางสังคม วิเคราะห์และตัดสินใจทางการตลาด (Market Analysis) ที่มุ่งเน้นการลดผลกระทบ เชิงลบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม เช่น การตั้งราคาสินค้า การดำเนินธุรกิจอย่างไม่เป็นธรรม การสร้างมลพิษจากการผลิตหรือขนส่ง ในชุมชน เป็นต้น ตลอดจนเพิ่มโอกาสสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ พัฒนา ภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่กับรูปแบบธุรกิจใหม่ที่ยั่งยืน พร้อมทั้งร่วมมือ กับภาครัฐและภาคประชาสังคม ให้คนทุกฝ่ายร่วมมือกันสนับสนุนชุมชน และทำให้ชุมชนสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างต่อเนื่อง

แนวทางการดำเนินงาน


ปี 2567 บริษัทส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชน คาดโปรแกรมเชิงกลยุทธ์ “4 สร้าง” ได้แก่ สร้างคน สร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างชุมชนอุ่นใจ ภายใต้ในนโยบายความรับผิดชอบต่อสังคม สนับสนุนการพัฒนาทักษะที่จำเป็นสำหรับการประกอบอาชีพ สร้างช่องทางสร้างรายได้ ส่งเสริม การจ้างงานในพื้นที่ พร้อมทั้งบริหารจัดการพื้นที่และสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม มุ่งลดกระทบเชิงบวกและลดผลกระทบเชิงลบต่อชุมชน ในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งครอบคลุมผู้มีส่วนได้เสียกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยเอสเอ็มอีกเกษตรกร และกลุ่มเปราะบางทางสังคม ผ่านการสนับสนุน ที่หลากหลาย เช่น การจัดตั้งศูนย์ เซเว่น อีเลฟเว่น สนับสนุนเอสเอ็มอี การส่งเสริมระบบบริหารแบบบูรณาการตลอดวงจรของการเป็นผู้ประกอบการ (SME Journey Line) การสนับสนุน การจัดซื้อผลิตภัณฑ์เกษตรและผลิตภัณฑ์ชุมชน ตลอดจนจัดหาช่องทางการขาย พื้นที่ขาย กิจกรรมกระตุ้น ยอดขาย และการจัดสัมมนา เป็นต้น

บริษัทมีส่วนร่วมในกิจกรรมบรรเทาความเดือดร้อนของชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยในหลายพื้นที่ของประเทศไทย สามารถเยียวยา ผู้ประสบภัยให้สามารถเข้าถึงอาหารและน้ำ 873,897 ราย มูลค่ารวมกว่า 1.60 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทกำหนดช่องทางรับเรื่องร้องเรียน เพื่อลดข้อกังวล สร้างความสัมพันธ์ และสร้างคุณค่าร่วมกันระหว่างองค์กรกับชุมชน บริษัทสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมติดตามและ ทบทวนผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายประจำปี และเดินหน้าบรรลุเป้าหมายระยะยาวในปี 2573 รวบรวมเป็นฐานข้อมูล สำหรับการพัฒนาเชิงนโยบายบริษัท และแผนการดำเนินงานในอนาคตให้มั่นใจว่าการดำเนินธุรกิจอยู่บนพื้นฐานของความเข้าใจบริบทเชิงสังคม สร้างคุณค่าทางสังคมที่ยั่งยืน และสนับสนุนระบบเศรษฐกิจของชุมชนได้อย่างแท้จริง

โครงการที่สำคัญ ปี 2567

บริษัทส่งเสริมและสร้างมูลค่าที่หลากหลายต่อสังคม ลดช่องว่างและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่มีมากขึ้น ผ่านโปรแกรมเชิงกลยุทธ "4 สร้าง" ได้แก่ สร้างคน สร้างงาน อาชีพ และสร้างชุมชนอุ่นใจ ตลอดจนร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ให้ความช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยแก่สังคมและชุมชน โดยดำเนินโครงการ ดังนี้

สร้างคน

สร้างงาน

สร้างอาชีพ

สร้างชุมชนอุ่นใจ

1. สร้างคน

บริษัทมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียน นักศึกษาปัญญาภิวัฒน์ฯ รวมกว่า 37,523 ทุน มูลค่า 1,186 ล้านบาท

2. สร้างงาน

บริษัทสนับสนุนการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยในปี 2567 บริษัทจ้างงานพนักงานมากกว่า 204,701 คน รวมถึงเปิดโอการการจ้างงานให้กับชุมชน และกลุ่มเปราะบาง กว่า 52,285 คน ผ่านการดำเนินโครงการสำคัญ ดังนี้

โปรแกรมฝึกอาชีพและทักษะการชงกาแฟ ให้แก่กลุ่มเปราะบาง

ซีพี ออลล์ ดำเนินโครงการฝึกอบรมอาชีพและทักษะการชงกาแฟให้แก่กลุ่มเปราะบาง เพื่อให้สามารถเพิ่มทางเลือกในการประกอบอาชีพในอนาคต นำมาสู่การสร้างรายได้และพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ

โครงการต่อเนื่อง ห้องเรียนกาแฟ ปีที่ 3

จัดฝึบอบรมวิชาชีพการชงกาแฟแก่กลุ่มเยาวชนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา ให้กับโรงเรียนจากสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ 6 โรงเรียน ได้แก่ โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดชัยภูมิ โรงเรียนนครราชสีมาปัญญานุกูล โรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดเพชรบูรณ์ โรงเรียนนครสวรรค์ปัญญานุกูล โรงเรียนฉะเชิงเทราปัญญานุกูล และโรงเรียนโสตศึกษา จังหวัดขอนแก่น


โครงการต่อเนื่อง Young Barista Camp ปีที่ 3

จัดฝึกอบรมอาชีพและทักษะการชงกาแฟนักเรียนผู้พิการทางการได้ยินระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในปี 2567 โครงการต่อยอดการจัดอบรมทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ หลักสูตรการชงกาแฟเบื้องต้นให้แก่นักเรียนและครูโรงเรียนโสตศึกษา จำนวน 359 ราย และจัดการแข่งขันโครงการ Young Barista Camp 2024 ให้กับผู้บกพร่องทางการได้ยิน โดยมีตัวแทนจากนักเรียนโรงเรียนโสตศึกษาที่เคยได้รับการอบรมจำนวน 6 โรงเรียน โรงเรียนละ 6 ราย เข้าร่วมการแข่งขัน


โครงการกาแฟสร้างสุขสร้างโอกาส ปีที่ 2

มอบเครื่องชงกาแฟและเครื่องบดเมล็ดกาแฟพร้อมฝึกอบรมวิชาชีพกาแฟ แก่สมาชิกศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคกลาง จังหวัดนนทบุรี จำนวน 150 ราย ชมรมเพื่อคนพิการทางสติปัญญา จังหวัดนนทบุรี จำนวน 65 ราย และเรือนจำอำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย จำนวน 30 ราย


โครงการต่อเนื่อง ก้าวที่พลาาด สู่โอกาสสายอาชีพ ปีที่ 4

มอบโอกาสการประกอบอาชีพด้านกาแฟและเบเกอรี่ให้กับผู้ก้าวพลาดในชชีวิตที่ศูนย์สร้างโอกาส กรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยการสร้างต้นแบบเป็นศูนย์ฝึกเอชน ได้แก่ ร้านเบลลินี่ สาขากระทรวงยุติธรรม เพื่อฝึกอาชีพเยาวชนกรมพินิจต่อเนื่องรุ่นที่ 8-10 โดยในปี 2567 มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการ 8 ราย และได้รับโอกาสการบรรจุเข้าทำงาน ณ ร้านเบลลินี่ จำนวน 4 ราย


โครงการส่งเสริมอาชีพเกษตรกรกลุ่มเปราะบาง

ซีพี แรม ขอนแก่น ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ให้ความรู้กลุ่มเปราะบาง ณ สมาคม คมนาคมแห่งประเทศไทย (สาขาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนกลาง) ด้าน หลักปฏิบัติสุขอนามัยที่ดี (GHP หรือ Good Hygiene Practice) และการจัดการวัตถุดิบทางการเกษตรให้ได้ มาตรฐานหลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต (GMP หรือ Good Manufacturing Practice) ก่อนเสมอมา เช่น มะกรูด ใบโหระพา พริกขี้หนูแดง หอมแดง หอมแขก กระเทียมไทยและต้นหอมเป็นต้น ซึ่งมีวัตถุดิบทางการเกษตรดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ต่อในขบวนการ ผลิตอาหาร พร้อมรับประทานของซีพีแรม เช่น ข้าวผะเพราหมู ข้าวผะเพราไก่ไข่ดาว ข้าวปลาผัดพริกสด ข้าวพะแนงหมูไข่เจียว หมูสับ ฯลฯ ที่จำหน่ายในร้าน 7-Eleven ในพื้นที่ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ปี 2567 มีปริมาณการจัดซื้อวัตถุดิบ 41.63 ตัน รวมมูลค่าการจัดซื้อ 3.38 ล้านบาท


โครงการ 60 ยังแจ๋ว มอบโอกาสให้ผู้สูงวัย

ซีพี แอ็กซ่า ร่วมกับกระทรวงแรงงาน รับสมัครผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปร่วมงานอบรม เสริมทักษะ พร้อมเปิดพื้นที่ขายสินค้าภายใน เม็คโคร - โลตัส โดยการจ้างงานผู้สูงอายุ เข้าปฏิบัติงานในสาขา 227 ราย หรือเข้าโครงการฝึกอาชีพ ในกิจกรรม เถ้าแก่ช่วยเถ้าแก่ 150 ราย เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้สูงอายุที่ต้องการทำงานอิสระ หรือมีธุรกิจของตนเอง และมีการเปิดตลาดสุขใจวัยเก๋า ที่เปิด พื้นที่จำหน่ายสินค้าให้กับผู้สูงอายุ 100 ราย โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งถือเป็นหนึ่งในความมุ่งมั่นขององค์กรในการสร้างคุณค่าและ ประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่สังคม โดยทั้งโครงการมีผู้สูงวัย เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 477 ราย


โครงการต่อเนื่อง ซีพี ออลล์ เปิดพื้นที่สร้างโอกาส Giving Space ปีที่ 5

มอบพื้นที่หน้าร้าน 7-Eleven สาขาพฤติมาท 30 จ.นนทบุรี แก่ชมรมสภาพิการจังหวัดนนทบุรี โดยประสานความร่วมมือกับ สำนักปฏิบัติการ จัดสรรพื้นที่หน้าร้านแก่องค์กรคนพิการที่มี ศักยภาพ เพื่อเป็นช่องทางจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ จาก กลุ่มคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ นำมาสู่การสร้างรายได้และการ พัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่กลุ่มคนพิการ ปี 2567 มีผู้พิการ ที่เข้าร่วมโครงการ 50 ราย


โครงการต่อเนื่อง ตลาดนัด ซีพี ออลล์ เปิดพื้นที่สร้างโอกาส ปีที่ 2

มอบพื้นที่หน้าร้าน 7-Eleven (Stand Alone Model) คือ สาขาถนนแสน สุข 1 (หาดวอนนภา) จังหวัดชลบุรี ซึ่งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แก่กลุ่มคนพิการจังหวัดชลบุรี 6 กลุ่ม เพื่อสนับสนุนช่องทางการขาย สินค้าแก่กลุ่มวิสาหกิจคนพิการในช่วงวันหยุดตามประเพณี 4 วัน อันเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวหนาแน่นนำมาสู่การสร้างรายได้และ การพัฒนาคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืนแก่กลุ่มคนพิการ สืบไปปี 2567 มีผู้พิการที่เข้าร่วมโครงการ 60 ราย


โครงการ ซีพี แอ็กซ์ตร้า เคียงข้างสังคมไทย

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ร่วมกับกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เปิดพื้นที่สร้างอาชีพให้ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ณ โลตัส สาขาพัสมอลล์ บางใหญ่ เพื่อส่งเสริมช่องทางการขาย และสร้างรายได้ให้กับ ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว กลุ่มอาชีพของกรมกิจการสตรีและสถาบัน ครอบครัว พร้อมจัดกิจกรรมเวิร์กชอปการตลาดออนไลน์ พัฒนา ทักษะทางการตลาดให้สามารถต่อยอดการขายสินค้าผ่านช่องทาง ออนไลน์ รวมถึงเพิ่มโอกาสและช่องทางการขายที่หลากหลาย มากยิ่งขึ้น ปี 2567 มีแม่เลี้ยงเดี่ยวที่เข้าร่วมโครงการ 30 ราย

3. สร้างอาชีพ

บริษัทสนับสนุนเอสเอ็มอีด้วยแนวคิด "SME โตไกลไปด้วยกัน" ผ่านกลยุทธ์ "3 ให้ช่องทางขาย ให้ความรู้ ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย เพื่อส่งเสริมพัฒนาผลิตภัณฑ์จากเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการชุมชน และเกษตรกรกว่า 8,769 รายการ มูลค่าการสนับสนุนกว่า 28,134 ล้านบาท

กลยุทธ์ "3 ให้"

ให้ช่องทางขาย

  • ขยายโอกาสผ่านการทำ Business Matching ภายใต้โครงการ Big Match เป็นความร่วมมือกับทางหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
  • ขยายโอกาสการเติบโตทางธุรกิจ และสร้างแรบนด์ให้กับเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชน เกษตรกร รวมถึงกลุ่มเปราะบาง ผ่านช่องทางการขายที่มีศักยภาพทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ 7-Delivery รวมถึงช่องทางอื่นๆ เช่น พื้นที่หน้าร้าน 7-Eleven และ ALL SME Market Place เป็นต้น

ให้ความรู้

  • สนับสนุนให้ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อย วิสาหกิจชุมชน รวมถึงเกษตรกร สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ที่สำคัญและจำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ อาทิ การพัฒนาคุณภาพสินค้าและการผลิต การออกแบบผลิตภัณฑ์ การตลาด การจัดการต้นทุน ความรู้เฉพาะทางตามประเภทธุรกิจ ช่วยเพิ่มพัฒนาศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ภายใต้กลยุทธ์ "ให้ความรู้ การพัฒนา" ผ่านการดำเนินงานจัดสัมมนาประจำปีถ่ายทอดความรู้ และการให้คำปรึกษาแนะนำ ด้วยโปรแกรมการพัฒนาที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการตลอดวงจรของการเป็นผู้ประกอบการ

ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย

  • เชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือระหว่างผู้ประกอบการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน หรือหน่วยงานอื่นๆ เพิ่มเสริมศักยภาพของผู้ประกอบการในการเข้าถึงแหล่งวัตถุดิบสำคัญ แหล่งเงินทุน นวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สามารถขยายธุรกิจไปยังตลาดโลกได้ ผ่านการดำเนินการในรูปแบบต่างๆ อาทิ ความร่วมมือกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ All Food Tech ศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ FoodInnoPolis กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย SME D Bank ธนาคารกรุงเทพ

ให้ช่องทางขาย: เพิ่มโอกาสการขาย ขยายโอกาสการเติบโตให้แก่เอสเอ็มอี

โครงการต่อเนื่อง สรรหาเอสเอ็มอีและวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด

ซีพี ออลล์ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดำเนินโครงการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนที่มีศักยภาพให้เข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด ผ่านกิจกรรมการจับคู่ธุรกิจ สัมมนาออนไลน์ด้านการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ อาทิ มาตรฐานผลิตภัณฑ์ การสร้างและออกแบบบรรจุภัณฑ์ การกำหนดราคาและนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยบริษัทส่งเสริมให้ผู้ประกอบการและวิสาหกิจนำเสนอผลิตภัณฑ์ เพื่อสร้างโอกาสในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านร้าน 7-Eleven ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำนวนผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชน
ที่เข้าร่วมโครงการ

จำนวนผลิตภัณฑ์ที่บริษัทส่งเสริมช่องทางการขาย ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์

มูลค่าการสนับสนุนผลิตภัณฑ์

กรณีศึกษา

บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด
ซีพี ออลล์ ร่วมกับ บริษัท วี ฟู้ดส์ (ประเทศไทย) จำกัด ยกระดับผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูป ได้แก่ กล้วยหอมเนย กล้วยหอมกรอบ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะท้องถิ่น สู่มาตรฐานระดับโลก จากกลุ่มวิสาหกิจชุมชนบ้านดอนทอง จ.นครปฐม ผ่านการวางแผนทำงานร่วมกัน ในทุกมิติ ตั้งแต่ระดับชุมชน และเกษตรกร ในการช่วยสร้างความมั่งคงด้านรายได้ และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และผู้ประกอบการ เอสเอ็มอีให้สามารถคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ นำมาผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐาน พร้อมส่งต่อผู้บริโภค โดยในปี 2567 มียอดขาย กว่า 359 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่าร้อยละ 21

บริษัท ทันน่า ฟู้ดส์ จำกัด
ซีพี ออลล์ ส่งเสริมเอสเอ็มอี โดยร่วมมือกับ บริษัท ทันน่า ฟู้ดส์ จำกัด เจ้าของอาหารทานเล่นสไตล์ไทยที่สะท้อนเอกลักษณ์ท้องถิ่น ผ่านผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ได้แก่ ขนมปังปิ้งไส้สับปะรด ผลไม้แปรรูป และอาหารทะเลแปรรูป ซึ่งพัฒนาร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจชุมชน ในพื้นที่ต่าง ๆ โดยแนวทางการพัฒนาของพันนา ฟู้ดส์สอดคล้องกับนโยบายของซีพี ออลล์ ที่มุ่งสนับสนุนเอสเอ็มอีเน้นการใช้วัตถุดิบภายใน ประเทศ ส่งเสริมการกระจายรายได้กลับสู่ชนบทอย่างยั่งยืน พร้อมให้คำปรึกษาตั้งแต่การยกระดับมาตรฐานการผลิต การพัฒนาแพ็กเกจจิ้ง ไปจนถึงการเปิดโอกาสในการจำหน่ายผ่านร้าน 7-Eleven ทั้งนี้ ซีพี ออลล์ ยังให้ความสำคัญ ตือการพัฒนาขนมไข่ยอของ “ขนมแป้งสิบ” โดยเน้นให้ทำขนม ผสมกับข้าวสังข์หยด ข้าวพันธุ์พื้นเมือง ของจังหวัดพัทลุง แทนการใช้ข้าวสาลี เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ และช่วย ส่งเสริมหเอกลักษณ์ของเลิจผลิตภัณฑ์ โดยในปี 2567 มียอดขายกว่า 87 ล้านบาท

บริษัท สุพรรณคิวฟู้ดส์ จำกัด
สินค้าแบรนด์ แม่และมาย ผลิตภัณฑ์เอสเอ็มอีมีคุณภาพที่วางจำหน่ายภายใน 7-Eleven มาตั้งแต่ปี 2542 เป็นเอสเอ็มอีของหวาน ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน จากการจัดสรรวัตถุดิบจากธรรมชาติ ผ่านกระบวนการผลิตที่ใส่ใจทุกขั้นตอน ทำให้ ได้รสชาติอร่อย สะอาด ถูกสุขอนามัย เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพและมองหาสิ่งที่มีประโยชน์ และช่วยส่งเสริมภาคเกษตรโดยการนำผลผลิตทางการเกษตร เช่น แห้ว ลูกตาล ลูกลาน ใบเตย มาเป็นวัตถุดิบ โดยในปี 2567 สร้างยอดขายกว่า 81 ล้านบาท เติบโตขึ้นกว่า ร้อยละ 544


โครงการต่อเนื่อง เปิดโอกาส สร้างอาชีพ กับ ALL SME MARKET PLACE ปีที่ 4

ซีพี ออลล์ สนับสนุนสินค้าและผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรและชุมชน สร้างโอกาสในการขาย เพิ่มรายได้ให้กับชุมชน ผ่าน ALL SME MARKET PLACE On Tour เปิดโอกาสให้ช่องทางการจำหน่ายสินค้า แก่ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเกษตรกร กลุ่มเอสเอ็มอี กลุ่มเปราะบาง และกลุ่มสถาบันการศึกษา เป็นแหล่งรวมสินค้า ของชุมชนต่าง ๆ ภายในประเทศ เพื่อเพิ่มการกระจายรายได้ใน กลุ่มเศรษฐกิจฐานราก เช่น สินค้าหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOPT สินค้า GI สินค้าประจำถิ่น สินค้าเกษตร เป็นต้น รวมถึง สนับสนุนและส่งเสริมพัฒนาความรู้ผู้ประกอบการ โดยมุ่งยกระดับ จากสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนท้องถิ่นสู่สินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ได้ มาตรฐานสากล ส่งเสริมสินค้าชุมชนและสินค้าเกษตรให้เป็นที่รู้จัก แพร่หลายมากขึ้น ผ่านการดำเนินการต่าง ๆ ดังนี้

  • สนับสนุนช่องทางการขายทั้งภายในแและภายนอกของบริษัท ผ่านช่องทางออฟไลน์ อาทิ การออกบูธ การให้พื้นที่หน้าร้าน การส่งขายในตลาด Modern Trade (Local Product) และช่องทางออนไลน์ อาทิ เว็บไซต์ แอพพลิเคชัน ไลน์ ติ๊กต็อก เฟซบุ๊ก ของ ALL SME Market Place
  • สนับสนุนการจัดทำสื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างการรับรู้และอธิบายสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ เพื่อกระตุ้นการขายและให้เป็นที่แพร่หลายมากขึ้น
  • สนับสนุนการเข้าถึงช่องทางการขนส่งสินค้าที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดต้นทุนการขนส่ง
  • สนับสนุนการพัฒนาผลิตภัณฑ์และให้ความรู้ เพื่อยกระดับจากผลิตภัณฑ์ชุมชน สู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล เตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำนวนผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมโครงการ

จำนวนผู้ประกอบการและวิสาหกิจชุมชนที่ดำเนินงาน ให้คำปรึกษาและให้ช่องทางเพิ่มเติม

รายได้หมุนเวียนกลับชุมชน

ยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนสู่ผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานสากล วางจำหน่ายในร้าน 7-Eleven


โครงการต่อเนื่อง "เคียงข้างเกษตรกรไทย"

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ให้การสนับสนุนสนิค้าและผลผลิตทางการเกษตรจากกลุ่มเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อยในท้องถิ่น รวมถึงผลิตผลจากเกษตรกรชาวเขา มูลนิธิโครงการหลวง อาทิ แม่เหียะ แม่แฮ และเลอตอ จำหน่ายที่สาขาของแม็คโคร โลตัส ทั่วประเทศ ผ่านช่องทางออฟไลน์และออนไลน์ พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพของคู่ค้า ยกระดับการผลิตอาหารให้ได้มาตรฐาน มีคุณภาพและปลอดภัย ตลอดจนส่งเสริมการมีรายได้ที่มั่นคงยั่งยืน ในปี 2567 สนับสนุนผลิตภัณฑืจากเกษตรกรรวม 87,831.49 ตัน มูลค่าการสนับสนุน 9,289 ล้านบาท

การสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตร

เนื้อสัตว์ชนิดต่างๆ

  • สนับสนุนเนื้อสัตว์และสินค้าโปรตีนทางเลือกกว่า 674.72 ตัน
  • มูลค่าการสนับสนุนกว่า 157 ล้านบาท

เนื้อไก่ ไข่ไก่ และนม

  • รับซื้อเนื้อและไข่ไก่ออร์แกนิกกว่า 6,845.65 ตัน
  • มูลค่าการสนับสนุนกว่า 582 ล้านบาท

ผลไม้ฤดูกาล เช่น ทุเรียน เงาะ มังคุด ลำไย ลองกอง มะม่วง และอื่นๆ

  • รับซื้อผลไม้ตามฤดูกาลกว่า 13,165.04 ตัน
  • มูลค่าการสนับสนุนกว่า 700 ล้านบาท

ผัก และผักพื้นบ้าน

  • รับซื้อผักและผักพื้นบ้านกว่า 52,145.52 ตัน
  • มูลค่าการสนับสนุนกว่า 1,848 ล้านบาท

สนับสนุนผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และ OTOP

  • รับซื้อผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นและ OTOP กว่า 197 รายการ
  • มูลค่าการสนับสนุน 969,250 บาท

โครงการต่อเนื่อง รับซื้อผลผลิตจากเกษตรกร (โนนเขวาโมเดล) ปีที่ 6

โลตัส รับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกรช่วยสร้างรายได้เป็นธรรม และมั่นคงให้แก่เกษตรกร ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กระทรวง เกษตรและสหกรณ์ และหน่วยงานภาครัฐในท้องถิ่น โดยมีเป้าหมาย ให้กลุ่มเกษตรกรสามารถบริหารจัดการการเพาะปลูกได้อย่างมี ประสิทธิภาพ สนับสนุนให้เกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงรวมตัวกันตาม นโยบายเกษตรแปลงใหญ่ของภาครัฐ ยกระดับมาตรฐานคุณภาพและ ความปลอดภัยของสินค้าเกษตร วางแผนการเพาะปลูกและจัดการรับซื้อล่วงหน้าตามนโยบายการตลาดนำการผลิต รวมถึงไปถึงสนับสนุนโอกาส ในการส่งสินค้าเกษตรภายในเครือข่าย ในปัจจุบันโลตัสมีแปลงปลูกผักในรูปแบบ Farm Model 4 แห่งหลัก ในทั้ง 4 ภูมิภาคของประเทศไทย สร้างอาชีพรายได้ที่เป็นธรรม และมั่นคง ให้กับเกษตรกรกว่า 546 ครัวเรือน โดยการทำงานโดยใกล้ชิดกับกลุ่มเกษตรกรในรูปแบบ Farm Model ส่งผลให้การควบคุมและกำกับดูแลมาตรฐานด้านความปลอดภัยและคุณภาพสินค้าดียิ่งขึ้น ปัจจุบันโลตัสรับซื้อผัก 27 ชนิด จากเกษตรกร บ้านในเขาผาว่ากว่า 89 ครัวเรือน ครอบคลุมพื้นที่กว่า 270 ไร่ ในปริมาณกว่า 13,000 ตันต่อปี สร้างรายได้เสริมต่อครัวเรือน 12,000 บาทต่อเดือน

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำนวนเกษตรกรทุกภูมิภาคที่เข้าร่วมโครงการ

ปริมาณการรับซื้อผลิตผลทางการเกษตร


โครงการหลวงต่อเนื่อง รับซื้อผลผลิต ปีที่ 29

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ขยายความร่วมมือมูลนิธิโครงการหลวงต่อเนื่อง กว่า 29 ปี ส่งเสริมอาชีพ สร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้เกษตรกรชาวเขา รวมถึงช่วยลูกค้าและประชาชนเข้าถึงสินค้า ผัก และผลไม้สด คุณภาพสูงในราคาที่เข้าถึงได้โดยรับซื้อผลผลิตจาก "ศูนย์พัฒนา โครงการหลวงเลอจอ" จังหวัดตาก ส่งจำหน่ายที่สาขาของโลตัส ทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำหน่ายสินค้าโครงการหลวงกว่า

ในโลตัสไฮเปอร์มาร์เก็ต 75 สาขา สร้างรายได้กว่า 115 ล้านบาท

สนับสนุนระบบน้ำ มอบถังเก็บน้ำ

พร้อมถังระบบน้ำเพื่อการผลิต มูลค่ารวม 350,000 บาท


โครงการสร้างความเข้มแข็งของชุมชนอย่างยั่งยืนด้วย “กล้วยหอมทอง”

โครงการสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางด้วยการเพิ่มช่องทางกระจายสินค้ากล้วยหอมทองสู่ผู้บริโภคผ่านร้านเซเว่นอีเลฟเว่น และส่งเสริมให้มีการเพาะปลูก กระบวนการหลังการเก็บเกี่ยวให้มีมาตรฐาน สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่ช่วยยืดอายุการเก็บรักษาและลดการเน่าเสีย นอกจากนี้ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ยังมีการนำกล้วยไปผลิตเป็นเค้กกล้วยหอมและบริษัทยังมีการทำสื่อการสอนเพื่อให้ความรู้กับเกษตรกรในการปลูกกล้วยหอมทอง

ความเป็นมา/ปัญหาความเดือดร้อนหรือระดับคุณภาพชีวิต

ด้วยบริษัทตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนสินค้าจากผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางรวมไปถึงความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป หรือระดับของผู้บริโภคที่เน้นการรับประทานอาหารที่สะดวกและดีต่อสุขภาพ บริษัทจึงริเริ่มทำการศึกษาในเรื่องการจัดการผลผลิตของกล้วยหอมทอง ตั้งแต่การเก็บเกี่ยว การคัดบรรจุ จนถึงการส่งกล้วยหอมทองสู่มือผู้บริโภคผ่านร้าน 7-Eleven โดยเป็นการทำงานร่วมกันหลายภาคส่วน ทั้งสหกรณ์กลุ่มวิสาหกิจชุมชน และวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดยแต่เดิมการจำหน่ายกล้วยหอมทองมีเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลเท่านั้น เนื่องจากพื้นที่ปลูกส่วนมากอยู่ในบริเวณ จังหวัดปทุมธานีและเพชรบุรีเป็นหลักส่วนในพื้นที่ต่างจังหวัดไกลๆ นั้นยังไม่มีการจำหน่ายกล้วยหอมทองผลเดี่ยวและยังมีการปลูกกล้วยกันน้อยมากจึงมีความคิดริเริ่มโครงการส่งเสริมการปลูกกล้วยหอมทองไปยังต่างจังหวัดมากขึ้นเพื่อให้มีสินค้าจำหน่ายในพื้นที่นั้นๆ รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาสังคม เช่น

  • เกษตรกรจังหวัดเพชรบุรีทำสวนมะนาวมาก่อนแต่ต้องมาใส่ปุ๋ยฉีดยาเพิ่มขึ้นทุกปี เพราะมะนาวปลูกในพื้นที่ซ้ำ ๆ นานหลายปีมีโรคสะสมเปลือกจะหนาแข็งเป็นไตมีน้ำน้อยหลังเปลี่ยนสวนมะนาวมาปลูกกล้วยหอมทองแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย เพราะกล้วยไม่ต้องใช้สารเคมี
  • อุบัติการณ์ราคาผลผลิตตกต่ำเช่นยางพารามัน สำปะหลัง ข้าวโพด อ้อย ปาล์ม ข้าว ยาสูบ กระเทียม เป็นต้น เกษตรกรเกิดการรวมกลุ่มเพื่อปรับตัวและเปลี่ยนมาปลูกกล้วยหอมทองซึ่งมีแนวโน้มการตลาดที่ดีมีอนาคตไกล

วัตถุประสงค์ของโครงการ

  • เพื่อสร้างงานให้ชุมชนชุมชนมีความเข้มแข็ง และลดการสูญเสียของผลผลิต
  • เพื่อดูแลระบบนิเวศน์โดยการลดการใช้สารเคมีในแปลงปลูก
  • เพื่อถ่ายทอดนวัตกรรม / องค์ความรู้การบ่มกล้วยให้อร่อยแก่โรงคัดบรรจุ (โรงบ่ม) ทุกภูมิภาคทั่วประเทศและลดการนำสินค้าเข้ามาสู่ส่วนกลางและเป็นการต่อยอดนวัตกรรมการจำหน่ายกล้วยหอมทองไปทั่วประเทศอีกด้วย และโครงการนี้จะเป็นต้นแบบของกล้วยน้ำว้าและผลไม้อื่น ๆ ต่อไป

เป้าหมายของโครงการ

  • เพิ่มเกษตรกรรายย่อยหลังเข้าร่วมมากกว่า 1,000 ราย  และมีพื้นที่เพาะปลูกกว่า10,000 ไร่
  • กำหนดมาตรฐาน เพื่อลดและควบคุมการใช้สารเคมี (สำหรับกำจัดวัชพืชและปุ๋ยเคมี)
  • พัฒนาและขยายโรงคัดบรรจุ (โรงบ่ม) และถ่ายทอดนวัตกรรม / องค์ความรู้การบ่มกล้วยมากกว่า 10 โรงคัดบรรจุทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

การดำเนินโครงการ

  • สร้างงานและอาชีพให้กับชุมชน ทีมงานสินค้าเกษตรของ 7-Eleven เข้าไปสอนเทคนิคการจัดการปลูกแปลง ให้กับทีมส่งเสริมของโรงคัดบรรจุให้สามารถประเมินและพัฒนาลูกสวนอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น แหล่งน้ำพื้นที่ปลูกการจัดการสารเคมีทางการเกษตรการจัดกระบวนการผลิตเพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพการเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวการบันทึกข้อมูลเอกสารต่าง ๆ เพื่อสืบย้อนกลับและการขนส่งวัตถุดิบจากวิธีการที่ชัดเจนนี้ทำให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพและความปลอดภัยตรงตามมาตรฐานที่รับซื้อและขยายลูกสวนได้อย่างรวดเร็วรวมถึงการขึ้นทะเบียนเกษตรเพื่อสามารถสืบย้อนกลับได้อย่างมีระบบ
  • เกษตรกรมีการจัดการสารเคมีที่เหมาะสมและปลอดภัย ทีมงานสินค้าเกษตรของเซเว่นอีเลฟเว่น มีการศึกษาสารเคมี และการออกฤทธิ์ให้เหมาะสมกับพืชและสอดคล้องตามกฎหมายกำหนด โดยมีการกำหนดประเภทสารเคมีที่ใช้ได้ สัดส่วนการใช้งานเป็นมาตรฐานรวมถึงการจัดเก็บวัตถุอันตรายทางการเกษตรสภาพแวดล้อม (การจัดการซากขยะอันตราย) ถ่ายทอดองค์ความรู้นี้ให้กับทีมส่งเสริมของโรงคัดบรรจุเพื่อสอนและติดตามให้ลูกสวนที่ขึ้นทะเบียนมีความเข้าใจและใช้ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัยรวมถึงการส่งเสริมให้ใช้ปุ๋ยชีวภาพ / ปุ๋ยพืชสดและชีวภัณฑ์
  • เพิ่มช่องทางการจัดจําหน่าย ทีมงานสินค้าเกษตรของเซเว่นอีเลฟเว่นเข้าไปพัฒนาโครงสร้างสถานที่ผลิตบุคลากรที่เกี่ยวข้องและกระบวนการผลิต ได้แก่
    – การคัดเลือกวัตถุดิบ เช่น ระดับความแก่ของกล้วยการยอมรับตำหนิของผิวกล้วยการกำหนดน้ำหนักต่อหวี
    – การบ่มซึ่งมีการควบคุมสภาวะในการบ่ม ได้แก่ อุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ระยะเวลาในการบ่มเทคนิคนี้สามารถกำหนดระดับความสุกให้มีช่วงความอร่อยพร้อมรับประทานเมื่อถึงร้านสาขาพอดีรสชาติจะหวานพอดีมีความเหนียวนุ่ม เนื้อไม่เละและมีความโดดเด่นแตกต่างจากกล้วยหอมทองตามท้องตลาด ที่เนื้อจะเละเสื่อมสภาพเร็ว
    – การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับข้อมูลทางสรีรวิทยาของกล้วยหอมทองที่ช่วยยืดอายุให้อยู่นานขึ้น พัฒนาบรรจุภัณฑ์ให้ดูทันสมัยและรักษาคุณภาพได้ดียิ่งขึ้นเอื้อต่อการจัดจําหน่ายร้านสะดวกซื้อทั่วประเทศส่งผลให้สามารถวางจําหน่ายกล้วยหอมทองได้ 4 วันซึ่งช่วยลดการสูญเสียได้เป็นอย่างมาก
    – การขนส่งกล้วยหอมทองนั้นมีการกำหนดรูปแบบรถขนส่งทั้งแบบควบคุมอุณหภูมิและไม่ควบคุมอุณหภูมิเพื่อลดต้นทุนให้กับโรงคัดบรรจุขนาดเล็กที่เริ่มต้นธุรกิจและโรงคัดบรรจุสามารถจัดส่งสินค้าที่คลังสินค้า (BDC) ใกล้เคียงตามภูมิภาคทั่วประเทศไม่ต้องจัดส่งมายังส่วนกลางกรุงเทพฯ และปริมณฑล

การพัฒนาข้างต้นทีมงานได้ใช้ Packing house เป็นศูนย์กลางเชื่อมระหว่างเกษตรกรและซีพีออลล์ มีการคาดการณ์ยอดส่งสินค้าส่งให้ packing house เพื่อส่งต่อให้เกษตรกรในการวางแผนปลูกเพื่อลดการล้นตลาดของกล้วยหอมทองรวมทั้งให้คำปรึกษาและให้ความรู้ตั้งแต่ก่อนเก็บเกี่ยวจนถึงหลังเก็บเกี่ยวแล้วยังส่งเสริมให้มีการทำกล้วยปอกเพื่อส่งโรงงานเบเกอรี่ (เค้กกล้วยหอม CPRAM) และทำปุ๋ยชีวภาพ / ปุ๋ยพืชสดเพื่อลดการสูญเสียให้ได้มากที่สุด

มูลค่าทางสังคม

  • สร้างงานและอาชีพให้กับชุมชน ผลลัพธ์: สามารถเพิ่มเกษตรกรรายย่อยหลังเข้าร่วมโครงการเป็น 1,290 รายและมีพื้นที่เพาะปลูก 21,275 ไร่ (ก่อนเริ่มโครงการมีเกษตรกรรายย่อย 479 ราย และมีพื้นที่เพาะปลูก 3,868 ไร่) ทำให้โรงคัดบรรจุในแต่ละภูมิภาคสามารถรับวัตถุดิบกล้วยหอมทองโดยตรงจากเกษตรกรในพื้นที่โดยไม่ต้องเสียเวลาขนวัตถุดิบกล้วยหอมทองมายังส่วนกลางเช่นกล้วยหอมทางภาคใต้ก็จะใช้กล้วยในพื้นที่ชุมพร สุราษฎร์ สงขลา พัทลุงและสตูล เป็นต้น ซึ่งเป็นการสร้างงานให้ชุมชนและสร้างความมีส่วนร่วมกับชุมชนเกษตรกรไม่ต้องวิ่งหาที่จําหน่ายวัตถุดิบไกล ๆ ผลผลิตไม่เสียหายและสร้างความพึงพอใจให้เกษตรกร รวมทั้งสร้างความเข้มแข็งให้ชุมชนอีกด้วย
  • เกษตรกรมีการจัดการสารเคมีที่เหมาะสมและปลอดภัย ผลลัพธ์: จากผลการศึกษาข้างต้นหลังเข้าร่วมโครงการสามารถใช้สารเคมีที่เหมาะสมในปริมาณที่ปลอดภัยส่งเสริมการใช้ปุ๋ยชีวภาพและชีวภัณฑ์ ทำให้การใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชและปุ๋ยเคมีลดลงกว่าร้อยละ 40.7 สามารถลดต้นทุนให้กับเกษตรกร 786.5 บาทต่อไร่
  • เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่าย ผลลัพธ์: การพัฒนาช่องทางการจำหน่ายข้างต้นสามารถขยายโรงคัดบรรจุจาก 3 เป็น 22 โรงงาน ครอบคลุมทุกภูมิภาค และสามารถส่งกล้วยหอมทองได้ครอบคลุมร้าน 7-Eleven จำนวน 15,245 สาขาทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่ารับซื้อกว่า 828 ล้านบาท ส่งผลให้การรวมกลุ่มของเกษตรกรมีความเข้มแข็ง มีคุณภาพชีวิตที่ดีมากขึ้นสะท้อนผ่านรายได้ที่มั่นคงและมีความสามารถในการแข่งขันในตลาดมากยิ่งขึ้น

มูลค่าทางเศรษฐกิจ

  • ปี 2567 จำหน่ายผลผลิตกล้วยหอมทอง 126 ล้านลูก เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 15.77
  • สร้างยอดขายให้บริษัท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 22.42
  • คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 1,218 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ขยายผลการดำเนินงานไปยังเกษตรกรกลุ่มผลไม้ตามฤดูกาล กลุ่มผลไม้ตัดแต่งกลุ่มผักพร้อมปรุง กลุ่มผักสวนครัว กลุ่มธัญพืช และกลุ่มผักสลัดเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตร มีตลาดที่แน่นอน และกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ

จำนวนพื้นที่เพาะปลูก


โครงการ แคมเปญโปรโมทสินค้าเอสเอ็มอี

ซีพี ออลล์ นำศิลปะระดับโลก "แจ็คสัน หวัง" และ "เคน - ลิซ่า ลิ้มพัธดุล" โปรโมทสินค้าเอสเอ็มอี กระตุ้นยอดขาย ภายใต้แคมเปญ "เสน่ห์ความเป็นไทยโดย ๆ กี่หลงรัก" สนับสนุนกลุ่มเศรษฐกิจฐานราก พร้อมทั้งช่วยผลักดันให้สินค้าอาหารของเอสเอ็มอีไทย เป็นสินค้า ที่มีอิทธิพลทางวัฒนธรรม (Soft Power) ผ่านการดำเนินการ 4 ด้าน ได้แก่ 1) การติดตั้งป้ายโปรโมทสินค้าเอสเอ็มอีตามจุดขายของสินค้า 2) การเพิ่มจำนวน "7-Eleven SMEs Shelf" พร้อมทั้งพัฒนา "SMEs Shelf" ในบางสาขาให้เหมาะกับแต่ละพื้นที่ อาทิ สาขา Flagship สาขา สนามบินต่าง ๆ ให้อยู่ในรูปแบบของ Shelf SMEs ของฝากและของที่ระลึก 3) นำสินค้าเอสเอ็มอี มาร่วมโปรโมทในโฆษณาชุดต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง 4) สนับสนุนและส่งเสริมเอสเอ็มอีในทุกมิติ ช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งข้อมูล ความรู้ งานวิจัย ตลอดจนเป็นสื่อกลางในการเชื่อมโยง เครือข่ายพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนในการสร้างการเติบโตให้เอสเอ็มอี


โครงการตลาดนัด SME สัญจร และ SME Fair

ซีพี แอ็กซ์ตร้า ขยายแพลตฟอร์มแห่งโอกาส สำหรับเอสเอ็มอีและเกษตรกรไทย โดยร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ หอการค้าและสภาพอหอการค้า แห่งประเทศไทย และสมาคมค้าปลีกไทย จัดกิจกรรม ตลาดนัด SME สัญจร และ SME Fair ตลอดทั้งปีกว่า 15 ครั้ง มีผู้ประกอบการราย ย่อยเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 205 ราย และมียอดขายรวม 693,000 บาท ซึ่งเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน เพิ่มรายได้และขยายโอกาสให้ ผู้ประกอบการรายย่อยอย่างยั่งยืน มีออกบูธจำหน่ายสินค้า และเปิดเวทีให้ผู้ประกอบการได้เจรจาจับคู่ธุรกิจกับห้างค้าส่ง - ค้าปลีก

ให้ความรู้: พัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการที่เหมาะสม สอดคล้องกับปัญหาและความต้องการ

แนวทางการพัฒนาศักยภาพตามวงจรของการเป็นผู้ประกอบการ

เพื่อนใหม่

(ผู้ประกอบการทั่วไป)

  • ระบบจับคู่ธุรกิจภายใต้ฐานข้อมูลของผู้ประกอบการ

เพื่อนสนิท

(ผู้ประกอบการที่เป็นคู่ค้าธุรกิจแล้ว)

  • ส่งเสริมการเตรียมตัวสู่โมเดิร์นเทรด หรือการตลาดค้าปลีกแบบใหม่ที่เปิดรับสินค้าใหม่ๆ อย่างสม่ำเสมอ
  • ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพหลากหลายด้าน เช่น ยกระดับคุณภาพสินค้าและการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐาน การออกแบบ พัฒนาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนไปของลูกค้าและการพัฒนาบรรจุภัณฑ์

เพื่อนแท้

(ผู้ประกอบการคู่ค้าธุรกิจที่มีการเติบโตและมีความพร้อมสูง)

  • ส่งเสริมการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอให้กับคู่ค้าของบริษัทที่มีอัตราการเติบโตสูง
  • ส่งเสริมการพัฒนาองค์ความรู้สำหรับผู้ประกอบการและชุมชนที่บริษัทเข้าไปดำเนินธุรกิจ ผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ศูนย์ความรู้ SME การสัมมนาวิชาการ การเข้าถึงแหล่งเงินทุน

โครงการต่อเนื่อง ศูนย์ 7 สนับสนุน SMEs

ซีพี ออลล์ ขับเคลื่อนโครงการศูนย์ 7 สนับสนุน SMEs มุ่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการในหลากหลายด้าน เพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับผู้ประกอบการให้เติบโตอย่างยั่งยืน ดังนี้

1

ด้านคน

องค์ความรู้หลักสูตรการพัฒนาในกระบวนการผลิต

2

ด้านโครงสร้างธุรกิจ

ยกระดับมาตรฐานคุณภาพสินค้าชุมชนสู่ผู้ประกอบการ

3

ด้านเทคโนโลยี

เชื่อมเครือข่ายหน่วยงานในเครือมหาวิทยาลัยที่มีความพร้อมของเครืองมือ/อุปกรณ์สนับสนุน

4

ด้านสินค้าและช่องทางการขาย

สนับสนุนสินค้ากลุ่มอื่นๆ ที่ขึ้นชื่อ สู่ช่องทางการขายใหม่ๆ

โดยในปี 2567 โครงการศูนย์เซเว่นอีเลฟเว่นสนับสนุนเอสเอ็มอี พร้อมด้วยสำนักประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ จัดอบรมสัมมนาให้ความรู้ด้านฉลาก เนื่องด้วยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของคู่ค้าในเรื่องของการเตรียมความพร้อมในด้านของการจัดทำฉลากสินค้าให้ถูกต้อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับใหม่ ทั้ง 4 ฉบับ ที่จะเริ่มมีการบังคับใช้ จังได้จัดให้มีการอบรมใให้ความรู้ในเรื่องของ "การเตรียมความพร้อมด้านฉลากสินค้าตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องได้อย่างถูกต้อง โดยมีคู่ค้าเข้าร่วมการอบรม จำนวน 1,218 ราย


ศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ ALL FOOD TECH

เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพสินค้าของ SMEs ผ่านการรับรองคุณภาพ เพิ่มโอกาสในการขาย ศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ ซีพี ออลล์ พร้อมเคียงข้างผู้ประกอบการด้วยบริการตรวจวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการ ดำเนินงานภายใต้มาตรฐาน ISO/IEC 17025: 2017 ซึ่งเป็นมาตรฐานของห้องปฏิบัติการที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ภายใต้การบริหารงานของสำนักพัฒนาและประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซีพี ออลล์ โดยดำเนินตามเกณฑ์ข้อกำหนด ดังนี้

ความเป็นกลางและรักษาความลับของลูกค้า

บุคลากรปฏิบัติงานอย่างเป็น
กลางและมีความสามารถและปฏิบัติงานตามระบบบริหาร

มาตรฐานควบคุมและเฝ้าระวัง และมีการทบทวนแผนเป็นระยะเพื่อป้องกันอย่างเหมาะสม

ทดสอบความใช้ได้ของวิธี และเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมในการวิเคราะห์ตัวอย่าง

เครื่องมือที่ทันสมัยและได้มาตรฐาน มีผลการสอบเทียบอย่างสม่ำเสมอ

การทดสอบความชำนาญอย่างสม่ำเสมอ

การควบคุมคุณภาพของผลการทดสอบ

การควบคุมผลการทดสอบและได้รับการอนุมัติก่อนออกผลทุกครั้ง

ปัจจุบันศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ ซีพี ออลล์ ให้บริการใน 3 ด้าน ได้แก่

ศูนย์ปฏิบัติการทดสอบ

ให้บริการทดสอบทางด้านจุลินทรีย์และเคมี เช่น ตรวจสอบสารเคมีตกค้างในผลิตภัณฑ์







Food Ingredient Innovation Center (FIIC)

ศูนย์นวัตกรรมอาหารครบวงจร
- บริการให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาสินค้าให้กับผู้ประกอบการ
- บริการให้คำปรึกษาด้านกฎหมายอาหารฉลากสินค้า และการขอระบบโรงงานต่างๆ เช่น GMP GHP HALAL HACCP
- ให้บริการเช่าใช้สิทธิบัตรนวัตกรรมใหม่ๆ แก่ผู้ประกอบการ เพื่อต่อยอดสินค้าและการผลิตในเชิงอุตสาหกรรม

Sensory Evaluation Center

ให้บริการทดสอบทางประสาทสัมผัสสำหรับผลิตภัณฑ์อาหาร รวมถึงให้บริการให้คำปรึกษาด้านต่างๆ ตามความต้องการของผู้ประกอบการ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการผลิตทางด้าน GMP และความปลอดภัยอาหาร




โดยมีส่วนช่วยในการลดภาระค่าใช้จ่าย ด้านการทดสอบผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผู้ประกอบการมีศักยภาพในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในอย่างมีประสิทธิภาพ ในปี 2567 ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมรับบริการ จำนวน 24 ราย

การส่งเสริม พัฒนาศักยภาพและให้คำปรึกษาแก่ผู้ประกอบการ SMEs

โครงการต่อเนื่อง DIPROM Move to Modern Trade ปีที่ 3

ซีพี ออลล์ ร่วมกับกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดอบรมให้กับ ผู้ประกอบการเพื่อพัฒนาคุณภาพสินค้าและปรับปรุงให้ผลิตภัณฑ์ มีความเหมาะสมกับการขาย ผ่านกิจกรรมเวิร์กชอปในหัวข้อ "เทคนิคการขายและการให้บริการ" และกิจกรรมเยี่ยมชม บูรสินค้าของผู้ประกอบการ พร้อมให้คำแนะนำจากผู้บริหาร เพื่อเปิดช่องทางตลาดค้าปลีกสมัยใหม่ให้แก่ผู้ประกอบการราย ย่อยและวิสาหกิจชุมชน สอดคล้องกับนโยบาย "DIPROM CARE: ดีพร้อมแคร์" และการขยายพันธมิตรภาคธุรกิจ (Engagement)


โครงการต่อเนื่อง Business Accelerator ปีที่ 3

ซีพี ออลล์ ร่วมมือกับหอการค้าไทย สภาพอหอการค้าไทย เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการ ขยายช่องทางโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) ผ่านระบบ ประชุมออนไลน์ โดยมีผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ ส่งมอบองค์ความรู้จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจเป็นระยะเวลา 4 เดือน ตลอดกิจกรรมการเสนอ ความคิดเพื่อโน้มน้าวลงทุน เพื่อซักซ้อมการนำเสนอสินค้าเสมือนจริงกับโมเดิร์นเทรดต่าง ๆ ถือเป็นโครงการที่จะสร้างความเข้มแข็ง สร้างโอกาส ในการขยายตลาด ขยายเครือข่ายพันธมิตรให้กับสมาชิกผู้ประกอบการ ในปี 2567 มีผู้ประกอบการเข้าร่วม 2 รุ่น จำนวน 87 ราย


โครงการต่อเนื่อง พี่ช่วยน้อง ปีที่ 8

ซีพี ออลล์ ดำเนินกิจกรรมพี่เลี้ยงทางธุรกิจร่วมกับหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมหน่วยงานพี่เลี้ยงกว่า 22 หน่วยงาน เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการไทยให้สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

  • การดูแลผู้ประกอบการแบบรวม 150 ราย เช่น การประชุมกับผู้บริหาร เยี่ยมพื้นที่ปฏิบัติการ ห้องเรียนด้านการเงิน และการสร้างแรงบันดาลใจเกี่ยวกับกลยุทธ์ธุรกิจ เป็นต้น
  • การดูแลผู้ประกอบการแบบเข้มข้น เฉพาะผู้ประกอบการที่ผ่านคัดเลือก 3 ราย ลงพื้นที่ปฏิบัติงานจริง ประเมินโอกาสในการพัมนาศักยภาพของผู้ประกอบการ

ในปี 2567 บริษัทที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมด 77 บริษัท จากการเข้าร่วมโครงการพบว่าผู้ประกอบการ 35 ราย (ร้อยละ 83.45) สามารถประเมินเป็นมูลค่าของรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสามารถคิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมทั้งสิ้น 350.41 ล้านบาท


โครงการต่อเนื่อง ให้คำปรึกษา SMEs (7SMEs Support Center)

ซีพี ออลล์ เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ ผู้ผลิตสินค้า ซักถามข้อ สงสัยและปรึกษาเกี่ยวกับกระบวนการผลิต เงินทุน และองค์ความ รู้ในการพัฒนาธุรกิจ ในปี 2567 ให้คำปรึกษาแก่เอสเอ็มอีผ่าน โครงการ SME D Bank โครงการ SME Clinic โครงการ DIPROM และโครงการ SME Support Center รวม 191 ราย โดยแบ่งการ ให้บริการและคำปรึกษาออกเป็น 6 ด้าน ดังนี้

  • การพัฒนาคุณภาพมาตรฐานของสินค้า
  • การเตรียมพร้อมสู่ Modern Trade
  • การตลาด/สื่อประชาสัมพันธ์
  • การออกแบบ วิจัย พัฒนาผลิตภัณฑ์
  • การเพิ่มประสิทธิภาพระบบงาน การบริหารจัดการธุรกิจ
  • การจัดหาแหล่งเงินทุนและการระดมทุนในตลาดทุน

นอกจากนี้ ยังให้บริการเชื่อมโยงทั้งหน่วยงานภายในและภายนอก เพื่อสนับสนุนเอสเอ็มอี อาทิ โครงการอุดหนุนจากทางกรมส่งเสริม อุตสาหกรรม (กสอ.) และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม (สสว.) LiveEx Platform ตลาดหลักทรัพย์ แห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ รวมถึงส่วนลดค่าบริการพิเศษ จากสถาบันวิทยาศาตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ALL FOOD TECH, All Now และ พีไอเอ็ม Food Academy เป็นต้น


โครงการต่อเนื่อง ตลาดนัดโชห่วย ปีที่ 14

แม็คโคร ร่วมส่งเสริมสนับสนุนธุรกิจค้าปลีก รายย่อยและเอสเอ็มอีในทุกด้าน โดยเฉพาะโชห่วยที่เป็นกำลังสำคัญของเศรษฐกิจไทย โดยการพัฒนาให้ ความรู้และสร้างอาชีพใหม่ผ่านโครงการ "มิตรแท้โชห่วย" ทำงานร่วมกับร้านค้าปลีกรายย่อยหรือโชห่วย กว่า 6,000 ราย ทั่วประเทศ เป็นศูนย์รวม องค์ความรู้และเทคโนโลยี รวมทั้งเทคนิคการบริหารร้านค้าให้พัฒนาขึ้นเป็นสมาร์ทโชห่วยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ แต่ยังคง เล่นที่เป็นความคุ้นเคยกลางชุมชนไว้ รวมถึงยังนำเสนอทางเลือกการทำร้านค้าปลีกแบบสำเร็จรูปมีง่าย มีประสิทธิภาพ และเพิ่มผลกำไร ผ่านโมเดล ร้านค้าปลีกชุมชน

โดยในปี 2567 จัดงานตลาดนัดโชห่วยภายใต้แนวคิด "มิตรแลนด์ ดินแดนสมาร์ทโชห่วย" โดยรวบรวมองค์ความรู้ที่จะให้โชห่วยประสบความสำเร็จ ได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ผ่านกลยุทธ์ 3 ส. ได้แก่

  • สมาร์ต คือ พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการให้ดำเนินธุรกิจได้สมาร์ตหรือทันสมัยขึ้น ให้คุณเป็นมืออาชีพด้วย "แม็คโครโปร" Super App ที่ช่วยโชห่วยให้ สั่ง ขาย คุ้มในแอปเดียว พร้อมสิทธิพิเศษจากแม็คโครโปรพอยต์
  • สร้างกำไร สินค้าขายดีที่โชห่วย ต้องมีติดร้าน จากแบรนด์ชั้นนำกว่า 200 แบรนด์ ในราคาพิเศษที่พบได้เฉพาะในงาน

โครงการต่อเนื่อง MAKRO HORECA Academy (MHA) เพื่อนคู่คิดคนครบคงจรสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหาร ปีที่ 17

แม็คโคร สานต่อโครงการ "สร้างงาน สร้างอาชีพ" ในทุกมิติ โดยแม็คโครให้โอกาสผู้มีอาชีพ MHA ร่วมกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดอบรมหลักสูตร "Smart Restaurant Plus" แบ่งปันความรู้ เพิ่มทักษะด้านบริหารธุรกิจและการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการ ร้านอาหารภาคตะวันออก สร้างรายได้ให้ชุมชน พร้อมเป็นร้านอาหาร ยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้าแบบครบวงจร ทั้งทักษะและองค์ความรู้ ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ บัญชีและภาษี ความรู้ด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อการนำมาปรับใช้ในการบริหารจัดการและสื่อสารทางการตลาด อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยในปี 2567 ได้จัดกิจกรรมในพื้นที่ภาคเหนือ ภายใต้แนวคิด "THE NEW POSSIBLE ทุกสิ่งเป็นจริงได้" มุ่งพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโฮเถ้า จังหวัดเชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียงให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

สมาชิกผู้ประกอบการ HORECA ที่เข้าร่วมโครงการกว่า

จำนวนพื้นที่เพาะปลูก


โครงการยกระดับผู้ประกอบการ Lotus’s SMART SME ติดอาวุธ SME สู่เถ้าแก่แฟรนไชส์

โลตัส ร่วมกับ บริษัท พีอี ออร์กาไนเซอร์ จำกัด ออกแบบหลักสูตรพิเศษ Lotus’s SMART SME สู่เถ้าแก่แฟรนไชส์ เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการขยายธุรกิจแฟรนไชส์ พร้อมสนับสนุนพื้นที่เช่าสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยในโลตัสสาขาทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ตลาดโมเดิร์นเทรด เปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรมเจรจาจับคู่ธุรกิจ และร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

ผู้ประกอบการผ่านการอบรมหลักสูตร Lotus's SMART SME ติวเข้มเอสเอ็มอี สู่เถ้าแก่เฟรนไชส์

รวม 123 กิจการ


โครงการ ยกระดับมาตรฐานการผลิตกลุ่มสินค้าเกษตร

ซีพี ออลล์ ร่วมกับสยามแม็คโครแก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี กลุ่มสินค้าเกษตร เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิต ด้วยการให้ความรู้จากผู้เชี่ยวชาญในหัวข้อต่างๆ ดังนี้

  • การจัดการผลผลิตในสภาพอากาศแปรปรวน
  • การสร้างแบรนด์ เพื่อยกระดับภาพลักษณ์กลุ่มสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน
  • ต้นแบบการพัฒนาระบบการตรวจสอบย้อนกลับสินค้าเกษตร
  • การยกระดับด้านคุณภาพกลุ่มผู้ประกอบการสินค้าเกษตร

โดยในปี 2567 จำนวนเกษตรกรและผู้ประกอบการที่เข้าร่วม จำนวน 110 ราย


โครงการ "เรียนรู้คู่ชุมชน" ภายใต้กิจกรรมศึกษาดูงานด้านการเกษตร

ส่วนวิชาการเกษตร บริษัท ซีพีแรม จำกัด ส่งเสริมความรู้และอาชีพให้กับเกษตรกรและชุมชน โดยการนำกลุ่มเกษตรกรและชุมชนในพื้นที่ที่เคยรอบรับในจังหวัดปทุมธานี ลำพูน ขอนแก่นและสุราษฎร์ธานี เข้าศึกษาดูงานแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ นำองค์ความรู้ วิธีการจัดการ และเทคโนโลยีด้านการเกษตรมาปรับใช้ในการประกอบอาชีพ และนำประสบการณ์ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้และต่อยอดให้เหมาะสมในการดำรงชีวิตประจำวัน ปี 2567 เกษตรกรและชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรมศึกษาดูงาน จำนวน 72 ราย


โครงการปลูกผักสลัดเพื่อส่งเสริมความมั่นคงอาหาร

ซีพีแรม ชลบุรี สร้างโอกาสเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ร่วมกับโรงเรียนบ้านเขาดิน จัดโครงการปลูกผักสลัดเพื่อความมั่นคงทางอาหาร เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เพื่อส่งเสริมความรู้ด้านการเกษตรและเพิ่มทักษะวิธีการปลูกให้เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยตามหลักแนวทาง FOOD 3S ได้แก่ 1) Food Safety 2) Food Security 3) Food Sustainability ให้ผู้ที่เข้าร่วมอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับใช้ได้อย่างยั่งยืน ปี 2567 มีบุคลากรในโรงเรียน นักเรียน และชุมชน ที่เข้าร่วม จำนวน 560 ราย


โครงการเกษตรกรคู่ชีวิต

ส่วนวิชาการเกษตร บริษัท ซีพีแรม จำกัด ดำเนินโครงการ “เกษตรกรคู่ชีวิต” อย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปี โดยส่งเสริมการสร้างงานและอาชีพการเพาะปลูกถั่วลูกไก่เพาะ เพื่อพัฒนาและยกระดับเกษตรกรในชุมชนโดยรอบบริษัท ให้ได้วัตถุดิบที่มีคุณภาพและเป็นไปตามมาตรฐาน ส่งเสริมการรับรองระบบมาตรฐานทางการเกษตรที่ดีและเหมาะสม (Good Agricultural Practice : GAP) รวมถึงส่งเสริมการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในการเพาะปลูก และมีการรับซื้อใบกะเพาะจากเกษตรกร เพื่อใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตสินค้าเมนูข้าวหมกไก่ฯ ในร้าน 7-Eleven

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

เกษตรกรที่ได้รับการส่งเสริมการเพาะปลูกกว่า

สร้างรายได้จากการขายวัตถุดิบกะเพรา มูลค่ากว่า


โครงการปลูกรัก

ส่วนวิชาการเกษตร บริษัท ซีพีแรม จำกัด ส่งเสริมความรู้ด้านการเกษตรให้กับเด็ก นักเรียน และชุมชน โดยส่งมอบแหล่งการเรียนรู้ด้านการเกษตรผ่านโครงการปลูกรักจากการปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านการเกษตรที่เหมาะสม เพื่อใช้เป็นแหล่งการเรียนรู้ด้านการเกษตร การปลูกผักปลอดภัย และตระหนักรู้ในการเข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยตามแนวทาง FOOD 3S (Food Safety, Food Security และ Food Sustainability) อีกทั้งยังจัดกิจกรรมฝึกอบรมการปลูกผักปลอดภัย เพื่อให้เด็กนักเรียนและชุมชนได้เพิ่มองค์ความรู้ ทักษะ วิธีการจัดการ และการดูแล พร้อมืั้งสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นรูปธรรม "ความปลอดภัยทางอาหาร" เป็นพื้นฐานของอาหารที่มีคุณภาพส่งผลให้ชีวิตมีคุณภาพอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

เพิ่มแหล่งการเรียนรู้ด้านการเกษตรให้แก่ชุมชน

จำนวนผู้ที่เข้าร่วมการฝึกอบรมจำนวน

ให้การเชื่อมโยงเครือข่าย: สร้างความสัมพันธ์และเชื่อต่อระหว่างเอสเอ็มอี กับบุคคล องค์กร หรือเครือข่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

โครงการจับคู่ธุรกิจ และโครงการจับคู่โมเดิร์นเทรด

ซีพี ออลล์ สนับสนุนเอสเอ็มอีให้มีโอกาสเติบโตและยกระดับสินค้าจากสินค้าชุมชนสู่ระดับประเทศ โดยคัดเลือกเอสเอ็มอีที่มีความมุ่งมั่นต้องการพัฒนาสินค้า พัฒนามาตรฐานความปลอดภัยของกระบวนการผลิต มาตรฐานโรงงาน พัฒนาสูตรสินค้าให้มีอายุยาวขายยาวนานขึ้น รวมถึงพัฒนาบรรจุภัณฑ์เข้าร่วมโครงการจับคู่ธุรกิจ เพื่อรับคำแนะนำและร่วมพัฒนาสินค้า รวมถึงได้รับการสนับสนุนการกระจายสินค้าผ่านร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ ปี 2567 มีเอสเอ็มอีเข้าร่วมโครงการ 1,022 ราย และมีสินค้าเข้าร่วม ในการจับคู่ธุรกิจกว่า 300 รายการ

4. สร้างชุมชนอุ่นใจ

เป็นแสงสว่างและที่พึ่งชุมชน ยืนหยัดเคียงคู่ชุมชนและสังคมเพื่อนที่พึ่งพิงใจใกล้ ๆ คุณ โดยในปี 2567 มีการดำเนินโครงการสำคัญ ดังนี้

โครงการต่อเนื่อง "จิตสาธารณะ ร่วมพัฒนาและสร้างสัมพันธ์กับชุมชน"

บริษัทสนับสนุนการมีส่วนร่วมของชุมชนด้วยหลัก 3 ประโยชน์รับฟัง และวิเคราะห์ความต้องการของชุมชนรอบร้านในพื้นที่รัศมีไม่เกิน 5 กิโลเมตร และตอบสนองความต้องการผ่านกิจกรรมหลัก 6 ด้าน ประกอบด้วย

  • กิจกรรมสนับสนุนวันสำคัญต่างๆ ของชุมชน
  • กิจกรรมส่งเสริมการแบ่งปันและสร้างความสะดวกให้ชุมชน อาทิ ตลาดนัดชุมชน ศูนย์ร่วมสุขภาพของชุมชน เป็นสะพานบุญร่วม รับบริจาคเพื่อต่อธารน้ำใจให้ผู้ด้อยโอกาสในชุมชน
  • กิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาเยาวชน อาทิ สนับสนุนอุปกรณ์การเรียน การสอน มอบทุนการศึกษา ปรับปรุงสภาพแวดล้อมโรงเรียน
  • กิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์หน่วยงาน
  • กิจกรรมด้านวัฒนธรรม โดยเป็นศูนย์กลางยึดเหนี่ยวจิตใจของชุมชน
  • กิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อมของชุมชน อาทิ การปลูกต้นไม้ การจัดการขยะชุมชน

ซึ่งแนวทางดังกล่าวครอบคลุมถึงพื้นที่ดำเนินการที่สำคัญของ บริษัท ได้แก่ ศูนย์กระจายสินค้า ศูนย์บำบัดน้ำเสียเคมีและโลตัส โรงงานผลิตอาหาร ซีพีแรม เป็นต้น

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำนวนพนักงานที่เข้าร่วมโครงการ

จำนวนชั่วโมงรวมจิตอาสา จำนวนชั่วโมงรวมจิตอาสา

จำนวนคนในชุมชนเข้าร่วมโครงการ

งบประมาณสนับสนุนจิตอาสา


โครงการต่อเนื่อง มุ่งเน้นรับผิดชอบต่อเพื่อนบ้านทุกภูมิภาคปีที่ 2

ด้วยความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาชุมชนให้ก้าวหน้าและยั่งยืน บริษัทได้มอบความปรารถนาดีและลูกค้าเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนความเป็นอยู่ที่ดีให้กับสังคม จากการติดตั้งตู้เอทีเอ็มของไปรษณีย์ใน 7-Eleven ทุกสาขา หรือ บริจาค M-Stamp ผ่านทางแอพลิเคชัน 7App รวมถึงสามารถเข้าร่วมบริจาคผ่านช่องทางต่าง ๆ ที่กำหนดไว้ที่บริษัทนำเงินที่ได้รับจากการบริจาคสมทบของลูกค้าและบมา มาร่วมกันดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดในสังคม ชุมชน โดยแบ่งออกเป็น 4 หมวดใหญ่คือ 1) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เช่น การนำขยะพลาสติกที่ใช้แล้วไปรีไซเคิลเพื่อเป็นน้ำมันไบโอดีเซลและนำมาใช้เป็นปะการังเทียม (Reef ball) รวม 42 แห่ง การจัดกิจกรรมปรับภูมิทัศน์ปลูกต้นไม้ในโรงเรียน ชุมชน สวนสาธารณะ (ในเขตเทศบาลเมืองที่อยู่อาศัยที่ชุมชนมีส่วนร่วม) การขยายเครือข่ายบริการรับกำจัดขยะ เพื่อผลิตก๊าซชีวภาพ สุนัขและแมวจรจัด 4) การขยายพื้นที่สุขะและโรงพยาบาล 5) การช่วยเหลือผู้พิการปี 2567 มียอดบริจาคแสตมป์เพื่อสาธารณกุศลเป็นจำนวนเงิน 6.87 ล้านบาท สรุปผลลัพธ์ ดังนี้

สิ่งก่อสร้างโรงเรียน
115 แห่ง
อุปกรณ์โรงเรียน
12 แห่ง
ทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน
5 แห่ง
ช่วยสัตว์จรจัด
3 โครงการ
  • ห้องน้ำ 109 แห่ง
  • กำแพงชำรุด 1 แห่ง
  • หลังคา 3 แห่ง
  • โรงอาหาร 1 แห่ง
  • เครื่องโทรมาตร 2 แห่ง
  • อุปกรณ์กีฬา
  • อุปกรณ์การเรียน
  • เครื่องกรองน้ำ
  • เครื่อใช้ไฟฟ้า เช่น พัดลมในห้องเรียน
  • อื่นๆ
  • ทุนการศึกษา 40 ทุน
    - มูลนิธิบ้านจริงใจ
    - ศูนย์การศึกษาพิเศษ จังหวัดสมุทรสาคร
    - โรงเรียนการศึกษา คนตาบอด จังหวัดขอนแก่น
    - โรงเรียนอนุบาลเมืองบ้านนาเมืองสุโขทัย
  • โครงการอาหารกลางวัน
    - โรงเรียป่าหวายวิทยายน
  • โครงการทำหมันหมา-แมว
  • โครงการศูนย์พักพิงสุนัขและแมวจรจัด
  • โครงการทำ Wheelchair สำหรับสุนัขพิการ

กรณีศึกษา ส่งมอบเงินบริจาคให้แก่ มูลนิธิเพื่อสุนัขในซอย

เพื่อสร้างสรรค์สังคม น่าอยู่อย่างยั่งยืนแก่ทุกชีวิต และช่วยลดอุบัติเหตุบนท้องถนนจากสัตว์เลี้ยงจรจัด ด้วยการควบคุมจำนวนประชากรสุนัขและแมวไร้เจ้าของ ปัจจุบันมีแนวทาง การทำหมันและฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโรคระบาดและเพิ่มสุขาขุมปิอบในชุมชน นอกจากนี้ ยังส่งเสริมบทบาทในสังคมให้เห็นคุณค่าและไม่สามารถสร้างพื้นฐานเติบโตได้ตามสภาพาะและคุณภาพชีวิต เมื่อป่วยและมีความสามารถในการดูแลสัตว์เล็ก ในการดูแล สัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้องอีกด้วย


โครงการต่อเนื่อง สร้างสัมพันธ์และขยายสาธารณูปโภคให้แก่ชุมชน ปีที่ 3

ส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของสังคม ด้านการพัฒนาชุมชน การบรรเทาสาธารณภัยและลดความสูญเสีย รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีจุดอยู่ความรู้ ทักษะ อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ ที่จำเป็นแก่ชุมชน และกลุ่มเปราะบาง ผ่านโครงการและกิจกรรมบรรเทาสาธารณภัย ดังนี้

  • โครงการ กำลังใจให้ My Hero ครั้งที่ 3 ส่งมอบอุปกรณ์กู้ชีพ กู้ภัยและอุปกรณ์กู้ชีพ เช่น หมวกกันน็อคเสื้อกันหนาว เลือกกินเสื้อกันหนาว เครื่องดับเพลิง อาหารและสุขกิ๊ฟเทคนิควัดน้ำมัน กิ๊ฟเทคนิควัดอาหาร และสุขลักษณะ และเครื่องมือที่จำเป็นแก่ชุมชนและกลุ่มเปราะบาง ได้แก่ เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์สื่อสาร เป็นจำนวน 1.17 ล้านบาท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานให้แก่หน่วยงานกู้ภัยและกู้ชีพ 30 หน่วยงาน
  • ซีพี ออลล์ ร่วมกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการฝึกซ้อมดับเพลิงและฝึกซ้อมอพยพหนีไฟตามผังเมืองกับและระดับตึกให้กับศูนย์การศึกษาพิเศษจังหวัดสิงห์บุรี
  • การเข้าร่วมระงับเหตุภัยพิบัติต่างๆ อาทิ ไฟไหม้ น้ำท่วม ช่วยเหลือกู้ภัยที่ประสบเหตุได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต พร้อมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเหตุการณ์น้ำท่วม ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย อาทิ น้ำดื่ม ข้าวสาร ปลากระป๋อง ในพื้นที่กรุงเทพและภาคใต้ จังหวัดเชียงราย แพร่ น่าน สุโขทัย และสงขลา
  • ซีพี ออลล์ ร่วมสมทบทุนจัดซื้อเครื่องฟื้นคืนคลื่นหัวใจด้วยไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED) เพื่อชุมชน ติดตั้งในร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ จำนวน 10 เครื่อง

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำนวนผู้ได้รับการฝึกอบรม

หน่วยงานกู้ภัย กู้ชีพได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์

30 หน่วยงาน

จำนวนผู้ประสบภัยที่รับอาหาร น้ำ

งบประมาณสนับสนุน


โครงการต่อเนื่อง CPRAM We Care ใส่ใจห่วงใยชุมชน ปีที่ 5

ซีพีแรม ลาดกระบัง ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง ส่งมอบความเป็นอยู่ที่ดีโดยส่งมอบถุงยังชีพ อาหาร และหน้าพื้นที่ปลอดภัย พร้อมให้การช่วยเหลือ ตรวจสุขภาพเบื้องต้นให้กับกลุ่มเปราะบาง รวมถึงช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีจุดมุ่งหมายให้ชุมชนและอุตสาหกรรมในภาคตะวันตกมีการบูรณาการอย่างเป็นระบบจะเปิด สอดการเปิดเผยและมีความสุขกับอยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

จำนวนกลุ่มเปราะบางในชุมชนที่ได้รับการบริจาค

จำนวนพนักงานเข้าร่วมโครงการ

งบประมาณสนับสนุน


โครงการต่อเนื่อง "เสริมอาชีพ สร้างรายได้สู่ชุมชน" ปีที่ 5

ซีพีแรม ลาดกระบัง ร่วมกับสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง จัดโครงการ "ส่งเสริมทักษะอาชีพ" และโครงการ "เสริมอาชีพ สร้างรายได้สู่ชุมชน" เพื่อส่งเสริมทักษะอาชีพให้กับสมาชิกในชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมอลาตระบี่ พร้อมต่อยอดและพัฒนาการจัดตั้งกลุ่มอาชีพนำไปสู่ความยั่งยืนในภาคส่วนชุมชนรวมถึงร่วมกันสร้างสรรค์อาชีพอย่างยั่งยืนด้วยกิจกรรมงานเพิ่มมูลค่าอาหาร พร้อมบรรยายให้ความรู้ด้านการเพิ่มรายได้ด้วยการตลาดออนไลน์ เพื่อสร้างทักษะอาชีพ นำไปสู่การต่อยอดสร้างรายได้สู่ชุมชนในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

ผู้เข้าร่วมกิจกรรม

สร้างรายได้หมุนเวียน มากกว่า


โครงการ "รักน้องหมา 24 ชั่วโมง"

ซีพี ออลล์ ร่วมกับ สำนักอนามัย สังกัดกรุงเทพมหานคร ให้บริการทำหมันและฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายพร้อมทั้งจัดการอบรมแลกเปลี่ยนความรู้ในการดูแลสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดูแลสังคม ชุมชน ลดการเกิดโรคทางระบบสืบพันธุ์ ลดพฤติกรรมก้าวร้าวของสุนัข และเพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยงในระยะยาว ปี 2567 มีสุนัขและแมวได้รับการฉีดวัคซีน จำนวน 499 ตัว ทำหมันสุนัข 407 ตัว


โครงการตำรวจท่องเที่ยว X 7-Eleven เปิดจุดรับแจ้งเหตุสำหรับนักท่องเที่ยว

ซีพี ออลล์ ร่วมกับ ตำรวจท่องเที่ยวนำโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community (S.T.C.) โดยยึดหลักแนวทาง Smart Safety Zone มาประยุกต์ใช้ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ 20 แห่ง ใน 18 จังหวัด โดยสร้างภาคีเครือข่ายกับภาคเอกชน ผู้นำชุมชน ผู้ประกอบการ เพื่อแสวงหาแนวทางดำเนินการร่วมกันในการสำรวจจุดเสี่ยงทางกายภาพ วางแผนแก้ไข และตรวจสอบประเมินผล ให้แหล่งท่องเที่ยวมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยเบื้องต้นมีการอบรมอาสาสมัครตามโครงการชุมชนท่องเที่ยวเข้มแข็ง Strong Tourism Community ไปแล้วจำนวน 1,611 ราย ในจำนวนนี้เป็นพนักงานร้าน 7-Eleven 307 ราย จาก 155 สาขา ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั่วประเทศ


โครงการ 7-Eleven X ตำรวจท่องเที่ยว X สถานฑูตอังกฤษ ยกระดับความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ขับขี่ปลอดภัยทั่วไทย

เป็นโครงการที่ทำร่วมกับตำรวจท่องเที่ยวและสถานฑูตอังกฤษเป็นศูนย์กลางเผยแพร่ข้อมูล สร้างความปลอดภัย ไร้กังวล ท่องเที่ยวไทยอย่างมั่นใจ โดยร้าน 7-Eleven จะเป็นช่องทางกระจายข้อมูลและคำแนะนำด้านความปลอดภัยในการขับขี่บนท้องถนน เช่น การปฏิบัติตามกฎหมายจราจร การสวนหมวกกันน็อค ไม่ขับขี่ในขณะมีอาการมึนเมา และการทำประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น โดยจะติดโปรสเตอร์ประชาสัมพันธ์ที่ร้าน 7-Eleven และเผยแพร่ผ่านจอของเครื่องชำระเงิน

เว็บไซต์ cpall.co.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายการใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า