การปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

การปกป้องฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2566


จัดการความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่เสี่ยง

ร้อยละ  100

ปลูกต้นไม้สะสม

722024  ต้น

ปล่อยลูกพันธุ์ปูม้าระยะ Yong Crab สะสมกว่า

1.2  ล้านตัว

การดำเนินงานที่สำคัญปี 2566


โครงการต่อเนื่อง ปลูกป่า ปลูกอนาคต


โครงการตามแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับชั้น

โครงการ CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน

โครงการต่อเนื่อง ปูม้ายั่งยืนเพื่อทะเลไทย


โครงการต่อเนื่อง ประเมินความเสี่ยงสภาวะขาดแคลนน้ำของพื้นที่ดำเนินการของบริษัท

ผู้มีส่วนได้เสียหลักที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ


สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน


SDG 6 สร้างหลักประกันว่าจะมีการจัดให้มีน้ำและสุขอนามัยสำหรับทุกคน และมีการบริหารจัดการที่ยั่งยืน

6.6 ยกระดับคุณภาพน้ำ โดยลดมลพิษ ขจัดการทิ้งขยะและลดการปล่อยสารเคมีและวัสดุอันตราย ลดสัดส่วนน้ำเสียที่ไม่ผ่านกระบวนการลงครึ่งหนึ่ง และเพิ่มการนำกลับมาใช้ใหม่

SDG 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

14.1 ป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทุกประเภท โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดิน

SDG 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

15.1 สร้างหลักประกันว่าจะมีการอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ระบบนิเวศบนบกและในน้ำจืดในแผ่นดิน รวมทั้งบริการทางระบบนิเวศอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยั่ง ป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ ภูเขา และเขตแห้งแล้ง

ผลการดำเนินงานเทียบเป้าหมาย


เป้าหมายปี 2573

ร้อยละ  100

ทุกพื้นที่การดำเนินการของธุรกิจมีโครงการวามร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ หรืองค์กรอิสระภายนอกเพื่อช่วยสนับสนุนการลดผลกระทบเชิงลบต่อระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวิตภาพ

ความก้าวหน้าเทียบกับเป้า

สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2566

จำนวนต้นไม้ที่ปลูก เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

ประเภทชนิดพันธุ์ไม้ที่ปลูก

ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย จำแนกตามประเภทโครงการ

ประเภทโครงการ พื้นที่ (ไร่สะสม) จำนวนต้นไม้
(ต้นไม้สะสม)
คาดการณ์ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
(ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
(กรณีต้นไม้โตเต็มวัย*)
ร่วมกับภาคส่วนอื่นๆ อาทิ ภาครัฐ วัด โรงเรียน 7301 662533 28488.92
ร่วมกับเครือข่ายเอกชน ชุมชนใกล้เคียงปลูกป่า ส่งเสริมอาชีพ 272 14135 307.81
สนับสนุนกล้าไม้ให้พนักงานปลูก 137 26874 1155.58
ปลูกต้นไม้ในพื้นที่บริษัท 903 18482 794.73

* คำนวณจากจำนวนต้นไม้ โดย GHG 1 tCO2e เทียบเท่าต้นไม้สักอายุ 5 ปี 23.26 ตัน/ 1 tCO2e

ความเสี่ยงและโอกาส


กิจกรรมและพฤติกรรมที่สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน สามารถคิดเป็นค่าใช้จ่ายของทุกรัฐบาลทั่วโลกประมาณ 74.4 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 2.6 ล้านล้านบาท จากการประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพสมัยที่้ 15 มีการวางเป้าหมายที่จะอนุรักษ์คุ้มครองและฟื้นฟูพื้นที่ทางบก ลุ่มน้ำ และทางทะเล อย่างไรก็ตาม ข้อกฎหมายและข้อบังคับที่เคร่งครัดในการป้องกันความสูญเสียด้านความหลากหลายทางชีวภาพยังไม่ถูกทบทวนและพัฒนาให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากพอ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการอนุรักษ์ของกรอบความหลากหลายทางชีวภาพทั่วโลกร่วมกัน นโยบายที่เข้มงวดในการกำกับดูแลของทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ นอกจากเพื่อลดความเสียหาต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม แหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ พื้นที่เกษตรกรรม ยังนับเป็นการปกป้องสิทธิมนุษยชนในการถือครองที่ดิน การประกอบอาชีพ แหล่งรายได้ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรและชุมชนอีกด้วย

บริษัทตระหนักดีว่าระบบนิเวศที่ไม่มั่นคง สามารถส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังการดำเนินธุรกิจ อาทิ จำนวนและคุณภาพของผลผลิตทางการเกษตรลดลง การขาดแคลนวัตถุดิบที่มีคุณภาพ อาจทำให้การผลิตและส่งมอบสินค้าในระบบห่วงโซ่อุปทานชะลอตัวลงหรือหยุดชะงัก ดังนั้น บริษัทจึงมุ่งสร้างความตระหนักรู้และดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศตลอดห่วงโซ่คุณค่า ผ่านมาตรการนโยบายของบริษัท รวมถึงการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาคธุรกิจ และภาคส่วนอื่นๆ ในการร่วมปกป้องและฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพของระบบนิเวศทางบกและทางน้ำ

แนวทางการดำเนินงาน


บริษัทดำเนินงานร่วมกับ คู่ค้าทางธุรกิจลำดับที่ 1 ลำดับถัดไป และ พันธมิตรธุรกิจ ในห่วงโซ่คุณค่า ภายใต้นโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อประเมินความเสี่ยง ผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ครอบคลุมพื้นที่และการดำเนินงานของบริษัท หลีกเลี่ยงการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่จะส่งผลกระทบต่อพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่คุ้มครอง ตามนิยามและข้อกำหนดขององค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ และพื้นที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตามประกาศของ UNESCO บริษัทกำหนดแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น เพื่อบริหารจัดการผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินธุรกิจ ที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมกันนี้ บริษัทมุ่งมั่นในการร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรและทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ดำเนินโครงการฟื้นฟู อนุรักษ์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระบบนิเวศทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกสุทธิ คืนสมดุลและเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศ

การประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

นอกจากเคารพและปฏิบัติตามข้อกำหนด และปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่นด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ บริษัทมีนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ รวมถึงมีการดำเนินงานด้านการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศทางบกและทางน้ำ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพในขอบเขตพื้นที่ดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ครอบคลุมพื้นที่โรงงานผลิต พื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่การจำหน่ายสินค้า ร้อยละ 100 รวมไปถึงพื้นที่การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของคู่ค้าสำคัญลำดับที่ 1 ร้อยละ 100

การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศรวมกับฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ ได้ถูกนำมาใช้ในการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความหลากหลายทางชีวภาพ สามารถต่อยอดเพื่อจัดทำแผนการดำเนินการป้องกันหรือลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ พร้อมกับขยายแนวทางการพัฒนาร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง ไม่ให้พื้นที่การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทและคู่ค้าตั้งอยู่ในพื้นที่เขตคุ้มครองใดๆ และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความหลากหลายทางชีวภาพทั้งทางบกและทางน้ำ

ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพ

กำหนดขอบเขตการประเมินและพื้นที่ศึกษา


  • พื้นที่ดำเนินการของธุรกิจที่ต้องทำการประเมินตามวงรอบ
  • กิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ต้องทำการประเมินตามวงรอบ
  • พื้นที่ดำเนินการใหม่ ครอบคลุมถึงการควบรวมการร่วมทุนและบริษัทในเครือ

คัดกรองและประเมินขั้นต้น


  • นำเข้าพิกัดของพื้นที่ศึกษาและทำการเปรียบเทียบกับขอบเขตพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์
  • ดำเนินการประเมินขั้นต้นผ่านการใช้เครื่องมือ Biodiversit and Ecosystem Services Trends and Conditions Assessment Tool เพื่อทำการคัดกรองพื้นที่อ่อนไหว

คัดเลือกพื้นที่อ่อนไหวเพื่อทำการดำเนินการประเมินเชิงลึกครอบคลุม 3 ด้าน

  • กำหนดพื้นที่เป้าหมายจากผลการศึกษาคัดกรองพื้นที่อ่อนไหว จากขั้นตอนก่อนหน้า
  • นำเข้าพิกัดในฐานข้อมูล Integrated Biodiversity Assessment Tool (IBAT/BestCat) พร้อมทั้งทำการประเมินครอบคลุม 3 มิติ
    - IUCN Red List
    - Protected Areas
    - Key Biodiversity Areas

จัดทำแผนป้องกันผลกระทบและดำเนินการตามแผน

  • ดำเนินการออกแบบมาตรฐานป้องกันผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติร่วมกัน ผู้เชี่ยชาญหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้การออกแบบแผนฯ ให้ยึดหลักการ No-Net-Loss หรือ No Net Deforestation และแนวทางการมีส่วนร่วม
  • ดำเนินการตามแผนฯ และเปิดเผยความก้าวหน้าของการดำเนินการเพื่อแสดงถึงความโปร่งใส

สร้างการมีส่วนร่วมและแนวทางพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

  • รับฟังความคิดเห็น เพื่อนำมาประยุกต์และเพื่อพัฒนาการดำเนินการโครงการให้มีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น สอดคล้องกับบริบทของระบบนิเวศและสังคมท้องถิ่นนั้น
  • ส่งเสริม ชักชวนผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ คู่ค้า ลูกค้า และชุมชน เป็นต้น ในการเข้าร่วมดำเนินการอนุรักษ์ และฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

ผลการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทพิจารณาความเฉพาะเจาะจงของพื้นที่ตามกิจกรรมการดำเนินธุรกิจ ทั้งภายในพื้นที่ปฏิบัติงานของบริษัทพื้นที่โดยรอบในรัศมี 0 ถึง 5 กิโลเมตร กิจกรรมต้นน้ำของโรงงานผลิตสินค้า และกิจกรรมปลายน้ำของศูนย์กระจายสินค้าในการส่งมอบสินค้าไปยังร้านค้าและผู้บริโภค ได้แก่ โรงงานผลิต ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร โลตัส และศูนย์กระจายสินค้าที่ตั้งอยู่นอกพื้นที่ชุมชน รวม 616 แห่ง ควบคู่ไปกับการพิจารณาพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่คุ้มครอง พื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ พื้นที่สำคัญทางธรรมชาติ อาทิ ป่าไม้ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ ลุ่มน้ำ ที่ระบุตามกระบวนการวิเคราะห์ของเครื่องมือประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (IBAT/BestCat)

การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ปี 2566

พื้นที่ดำเนินการ จำนวนพื้นที่ดำเนินการ พื้นที่ (ไร่)
พื้นที่ดำเนินการทั้งหมด 616 8645.20
พื้นที่ดำเนินการที่มีการประเมินผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพ
(ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา)
616 8645.20
พื้นที่ดำเนินการที่มีแนวโน้มจะส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
(ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา
52 669.45
พื้นที่ดำเนินการที่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการและติดตามผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
(ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา)
52 669.45

การระบุประเด็นความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทคัดกรองและประเมินประเด็นความเสี่ยงขั้นต้นในอุตสาหกรรมค้าปลีกอาหาร โดยอ้างอิงแนวทางขององค์การกองทุนสัตว์ป่าโลกสากล และความเฉพาะเจาะจงของพื้นที่ตามกิจกรรมการดำเนินธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งพิจารณาทั้งปัจจัยที่บริษัทมีความเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และปัจจัยทางธรรมชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหรือการผลิต ทั้งนี้ บริษัทจัดลำดับปัจจัยความเสี่ยงที่สำคัญที่มีอยู่และมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบในอนาคต แบ่งออกเป็น 3 ปัจจัย ดังนี้

01

ผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของสายพันธุ์ทั่วโลก

02

ผลกระทบต่อสายพันธุ์ที่ถูกคุกคาม

02

การพึ่งพาดินและน้ำ

บริษัททบทวนประเด็นความเสี่ยงตามบริบทและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้มาซึ่งประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญ เพื่อจัดทำแผนบริหารจัดการความเสี่ยงและมาตรการการดำเนินงานตามแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น ซึ่งครอบคลุมร้อยละ 100 จาก 52 พื้นที่ดำเนินการที่พบประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญ

แนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น

จากกระบวนการประเมินประเด็นความเสี่ยงทั้งทางตรงและทางอ้อมรวมถึงผลกระทบที่สำคัญทั้งเชิงลบและเชิงบวกในด้านความหลากหลาย การรุกรานของศัตรูพืช การลดลงของสายพันธุ์พืชและสัตว์ การย้ายถิ่นฐาน และการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศวิทยา

ทั้งนี้ บริษัทเคารพและติดตามข้อกำหนดและกฎหมายท้องถิ่นทางด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ท้องถิ่น เพื่อทบทวนมาตรการในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด พร้อมกำหนดแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น จากการหลีกเลี่ยงไปจนถึงการชดเชย พร้อมกับการศึกษาสายพันธุ์พืชและสัตว์ในพื้นที่ที่ถูกคัดเลือกว่ามีความอ่อนไหว เพื่อติดตามและทบทวนผลการดำเนินงานด้านความหลากหลายทางชีวภาพของบริษัท ให้สามารถลดความเสี่ยงทั้งทางตรงและทางอ้อม บรรเทาผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินธุรกิจที่มีต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในระยะยาว

ความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

บริษัทร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งคู่ค้า พันธมิตรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนภาคีเรือข่ายของบริษัท เพื่อดำเนินธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชนรอบข้างพื้นที่ดำเนินการและเพื่อรักษาระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์

บริษัทได้ตั้งเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ จำนวน 1,000,000 ต้น ภายในปี 2568 และดำเนินโครงการสนับสนุนต้นไม้เพื่อชุมชน โดยมีคณะทำงานปลูกไม้ยืนต้นเพื่อชุมชนที่ยั่งยืนดำเนินงานทั้งด้านอนุรักษ์ ด้านฟื้นฟูป่าไม้ ด้านการส่งเสริมการปลูกเพื่ออาชีพ และติดตามโครงการภายใต้กรอบการดำเนินการทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

กรอบการดำเนินงานร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

โครงการที่สำคัญ ปี 2566

1. ฟื้นฟูระบบนิเวศในชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการ

บริษัทส่งเสริมให้พนักงานมีจิตอาสา ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมพื้นที่โดยรอบพื้นที่ปฏิบัติงานทั้งร้าน 7-Eleven ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร โลตัส พื้นที่สถาบันการศึกษา ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารสำนักงานทั่วประเทศ โดยสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมปลูกต้นไม้ ขยายพันธุ์ไม้สู่ชุมชนเป็นประจำทุกปีอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและฟื้นฟูระบบนิเวศให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันมีการปลูกต้นไม้สะสมมากกว่า 18,482 ต้น

พื้นที่ดำเนินการ

5056  ต้น

พื้นที่ร้าน 7-Eleven ศูนย์กระจายสินค้าและสำนักงาน

6107  ต้น

พื้นที่สถาบันการศึกษาในกลุ่ม ซีพี ออลล์

5319  ต้น

พื้นที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร และ โลตัส และอาคารสำนักงานทั่วประเทศ

2000  ต้น

พื้นที่ภายในความรับผิดชอบซีพีแรม

2. ร่วมมือกับพันธมิตร เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางบกและทางน้ำ

ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางบก

โครงการต่อเนื่อง "WE GROW for ALL เราปลูกเพื่อทุกคน"

ซีพี ออลล์ ดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ในการจัดสรรพันธุ์กล้าไม้และสนับสนุนกิจกรรม "อวดต้นไม้ของเรา" ให้พนักงานร่วมปลูกไม้ยืนต้นและบันทึกการปลูกต้นไม้ผ่านแอปพลิเคชัน We Grow

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

2535  ต้น

แจกจ่ายพันธุ์กล้าไม้

1300  ราย

ให้กับพนักงาน


โครงการ "เรารักกัน เรารักโลก" คืนกำไรให้สังคม สนับสนุนกิจกรรมปลูกป่าลดโลกร้อน

โลตัส ร่วมสนับสนุน แคมเปญ "เรารักกัน เรารักโลก" ร่วมลดโลกร้อนและสร้างอากาศที่ดี โดยนำเงินรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ล้างจานไลปอนเอฟในสาขาของโลตัสทั่วประเทศ ที่มีฉลากลดโลกร้อนหรือฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ โดยทุกการจำหน่าย 1 ถุง เท่ากับ 1 บาท จะนำมาสมทบทุนบริจาคให้มูลนิธิโลตัสดำเนินโครงการปลูกป่าใน "โครงการปลูกป่า โลตัส" เพื่อช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก ซึ่งโลตัสได้ดำเนินโครงการปลูกป่าต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 17 ปี ผ่านการร่วมมือกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน นอกจากนี้ นำเพื่อพนักงานโลตัสร่วมกิจกรรม "โลตัส ปลูก ลดร้อน" ปลูกต้นกล้ารวม 500 ต้น พร้อมเชิญชวนประชาชนและเยาวชนในชุมชนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม เพื่อแบ่งปันความรู้และสร้างจิตสำนึกในการเป็นแนวร่วมดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติป่าไม้และสัตว์ สนับสนุนการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั้งยั่งยืน

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

87826  ต้น

จำนวนต้นไม้

2  ล้านบาท

มูลค่าบริจาค


โครงการต่อเนื่อง CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน

ซีพีแรม ดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ส่งมอบกล้าไม้ยืนต้นให้กับพนักงาน ชุมชน และผู้ที่สนใจทั่วประเทศ นำกล้าไม้ไปปลูกยังพื้นที่อาศัยและพื้นที่สาธารณะในชุมชนตามภูมิลำเนา เพื่อช่วยกระจายพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟู และรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และเพิ่มปริมาณต้นไม้ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

35200  ต้น

ปลูกต้นไม้

120000  ตารางเมตร หรือกว่า 80  ไร่

บนพื้นที่กว่า


โครงการต่อเนื่อง Next Gen New World

โลตัสร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดำเนินโครงการต่อเนื่องเป็นปีที่ 17 จัดกิจกรรมเยาวชนจิตอาสา อบรมเยาวชนปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม และสร้างนักอนุรักษ์ธรรมชาติที่ดีเพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยปี 2566 จัดกิจกรรมรักษาผืนป่า ดังนี้

  • ปลูกป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศ อาทิ อุทยานแห่งชาติตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ อุทยานแห่งชาติลาคลองงู จังหวัดกาญจนบุรี เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า แม่น้ำภาชี จังหวัดราชบุรี
  • การปลูกไผ่หนาม ป้องกันช้างป่าเพิ่มเติม อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จังหวัดกาญจนบุรี
  • จัดกิจกรรมให้ความรู้การปลูกต้นไม้และการดูแลรักษา จัดกิจกรรมทำแนวป้องกันไฟป่าแก่เยาวชนและประชาชน อุทยานแห่งชาติตาดโตน จังหวัดชัยภูมิ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่น้ำภาชี จังหวัดราชบุรี

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

550  ราย

เยาวชนเข้าร่วมอบรม

87826  ต้น

ปลูกต้นไม้

364  ไร่

ครอบคลุมพื้นที่

ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ

โครงการต่อเนื่อง ปูม้ายั่งยืน คู่ทะเลไทย

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ดำเนินโครงการปูม้ายั่งยืน คู่ทะเลไทย ต่อเนื่องเป็นปีที่ 12 ซึ่งเป็นการจัดการห่วงโซอุปทานที่เกิดผลตามแนวทาง FOOD 3S ของซีพีแรม โดยผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ ต้นน้ำสู่ปลายน้ำ อันได้แก่ ชาวประมง แพสิริมาระยอง (ผู้ส่งมอบวัตถุดิบเนื้อปู) บริษัท ซีพีแรม จำกัด (ผู้ผลิตอาหาร) และผู้บริโภครวมถึงสำนักงานประมงจังหวัดระนอง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลระนอง และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง เขต 3 เป็นผู้สนับสนุนความร่วมมือทางวิชาการ เพื่อให้การจัดการอนุรักษ์ คุ้มครอง และการพัฒนาการประมงปูม้าในทะเลไทยบรรลุผลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีผลเสียต่อระบบนิเวศวิทยา ทรัพยากร และคุณภาพสิ่งแวดล้อม เพื่อการเพิ่มมูลค่าปูม้าจากการแปรสภาพที่สอดคล้องกับมาตรฐานทางสุขอนามัยให้ได้ผลิตภัณฑ์ปูม้าที่มีคุณภาพสำหรับการบริโภค ประกันคุณภาพรักษามาตรฐานที่ต้องการ รวมถึงเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารและความยั่งยืนอาหาร ทั้งนี้ การดำเนินการโครงการดังกล่าวมีความคาดหวังในระยะยาว ถือกำหนดมาจากแนวคิดในการอนุรักษ์พันธุ์ปูม้าในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย ต่อยอด ขยายผลไปยังพื้นที่อันดามัน เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติไว้ให้คงความสมบูรณ์และสมดุลระบบนิเวศในท้องทะเลไทย

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

200,000  ราย

ร่วมปล่อยลูกพันธุ์ปูม้าระยะ Young Crab คืนสู่ท้องทะเลไทยกว่า

1200000  ตัว

สะสม


โครงการปลูกป่าชายเลน

บริษัทร่วมกับศูนย์กระจายสินค้ามหาชัย ศูนย์กระจายสินค้าสุราษฎร์ธานี และชุมชน อนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง ในบริเวษพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์อนุบาลและที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล เป็นประจำทุกปี

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

10862  ต้น

ปลูกป่า


โลตัสร่วมมือกับภาคีเครือข่ายปลูกป่าชายเลน คลองบ้านอำเภอ

โลตัสร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 โดยส่วนส่งเสริมและประสานงานเครือข่ายทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เข้าร่วมกิจกรรมปลูกป่าชายเลน คลองบ้านอำเภอ ณ บ้านแพน รีสอร์ท ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี มีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน ชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ทะเล (อสทล.) ในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 50 ราย ร่วมกับปลูกป่าชายเลนบริเวณพื้นที่คลองบ้านอำเภอ เพื่อเป็นการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนพื้นที่บ้านอำเภอให้มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และรักษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศบริเวณคลองบ้านอำเภอให้มีความอุดมสมบูรณ์

3. ปลูกต้นไม้ ปลูกอาชีพ

โครงการต่อเนื่อง "แม็คโคร ปลูกป่า"

บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) ร่วมกับจังหวัดชลบุรีดำเนิน "โครงการป่าสิริเจริญวรรษอันเนื่องมาจากพระราชดำริ" ปลูกต้นไม้ภายในพื้นที่ป่าสิริเจริญวรรษ ซึ่งเป็นแหล่งเรรียนรู้ระบบนิเวศที่สำคัญครอบคลุมพื้นที่ 3,900 ไร่ พร้อมกันนี้ โครงการได้สนับสนุนการดูแลกล้าไม้ โดยชุมชนและเกษตรกรในพื้นที่ เป็นการสร้างรายได้ให้เกษตรกรและชาวชุมชนชนบท และการเพิ่มผลกระทบเชิงบวก ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม


โครงการต่อเนื่อง "ไผ่พอเพียง...สู่อนาคตที่ยั่งยืน (Bamboo Project)"

ไผ่เป็นพืชท้องถิ่น เป็นที่ต้องการของตลาด เกิดภาวะขาดแคลน และต้องนำเข้าจากต่างประเทศ บริษัทร่วมกับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ "สานอนาคตการศึกษา CONNEXT ED" ของบริษัท ภายใต้ภาคีไผ่ยั่งยืน ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 สร้างรายได้ให้แก่โรงเรียน โดยการให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของไผ่การเพาะพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา การใช้ประโยชน์ และการแปรรูปไผ่ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม จัดสรรทรัพยากรน้ำและดิน ผ่านรูปการสัมมนาออนไลน์ ตลอดจนสนับสนุนพันธุ์กล้าไผ่ให้แก่โรงเรียนภาคีเครือข่าย รวมถึงช่วยหาโอกาสและช่องทางการตลาด

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

3  ราย

โรงเรียนและชุมชนเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการ

15011  ราย

ผู้เข้าร่วมโครงการ (นักเรียน 135 ราย ครู 11 ราย และคนในชุมชน 14,685 ราย)

500  ต้น

สนับสนุนพันธุ์กล้าไผ่

35000  ราย

มูลค่าการสนับสนุน

4.75  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจก

4. ปลูกป่า ปลูกอนาคต

ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ศูนย์เพาะพันธุ์ อนุบาลกล้าไม้ และสนับสนุนพันธุ์กล้าไม้เพื่อบ้าน วัด และชุมชนทั่วประเทศ พร้อมกับจัดงานสัมมนาสร้างเครือข่ายปลูกป่า ปลูกอนาคต ปี 2566 ส่งมอลกล้าไม้ให้กับพนักงานและประชาชน จำนวน 176,635 ต้น 179 ชุมชน 28 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 883 ไร่ โดยมีตัวอย่างโครงการ ดังนี้

โครงการชุมชนต้นน้ำปลูกป่า

บริษัทร่วมกับกลุ่มชุมชน 9 แห่ง และภาคีต้นน้ำ ส่งเสริมการปลูกฝังการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้กับนักเรียน นักศึกษา และชุมชน ผ่านการสนับสนุนแหล่งเพาะกล้าไม้ งบประมาณสร้างโรงเรียนเพาะพันธุ์ โรงเรือนอนุบาลกล้าไม้ และการดูแลรักษา ทั้งนี้ กล้าไม้จากแหล่งเพาะภายในโครงการ "ปลูกป่า" จะถูกส่งต่อผ่านโครงการป่าล้อมวัด เพื่อไปปลูกที่บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน รวมถึงโครงการ "WE GROW for ALL เราปลูกเพื่อนทุกคน" ให้พนักงานร่วมปลูกไม้ยืนต้นต่อไป

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

120000  ต้น

เพาะพันธุ์กล้าไม้

600  ไร่

ครอบคลุมพื้นที่

4290  ราย

คนในชุมชนเข้าร่วมโครงการ

1140  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก


โครงการต่อเนื่อง ป่าล้อมวัด

ซีพี ออลล์ นำพันธุ์กล้าไม้จากโครงการชุมชนต้นน้ำปลูกป่า ส่งมอบให้กับวัดและชุมชน เพื่อฟื้นฟูและคืนความสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ มุ่งส่งเสริมการปลูกป่าทดแทน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน และสร้างจิตสำนักรักษืสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึงบริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีคุณค่า

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

112700  ต้น

ส่งมอบพันธุ์กล้าไม้

150  วัด

ครอบคลุมพื้นที่

525000  ราย

คนในชุมชนเข้าร่วมโครงการ

996832  บาท

มูลค่าการสนับสนุน

1070  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ช่วยดูซับก๊าซเรือนกระจกได้


โครงการต่อเนื่อง โรงเรียนป่าไม้

ภายใต้เป้าหมายของบริษัทในการส่งเสริมการปลูดกต้นไม้ให้ได้ 60,000 ต้นต่อปี บริษัทต่อยอดโครงการ "ไผ่พอเพียง...สู่อนาคตที่ยั่งยืน" สู่โครงการ "ปลูกป่า ปลูกอนาคต" ส่งต่อองค์ความรู้ให้กับโรงเรียน โดยบรูณาการความรู้ด้านการปลูกต้นไม้ ในเนื้อหากลุ่มสาระต่างๆ ตามหลักสูตรแกนกลาง ประกอบไปด้วย

  • เรียนรู้การเพาะพันธุ์กล้าไม้
  • รู้จักชนิด ประเภทของต้นไม้
  • การอนุบาลดูแลรักษากล้าไม้
  • การปลูก
  • การดูแลรักษาและใช้ประโยชน์
  • การรายงานผล การเก็บข้อมูลการเจริญเติบโต
  • การรณรงค์การปลูกและดูแลรักษาป่าไม้

ผลการดำเนินงาน ปี 2566

7  ราย

โรงเรียนและสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ

10861  ราย

ผู้เข้าร่วมโครงการ (นักเรียน 2,499 ราย ครู 173 ราย และคนในชุมชน 8,189 ราย)

570  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกไ

5. โครงการตามแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น

การชดเชย

คืนความสมดุลหรือเกิดการเปลี่ยนแปลง




  • การเปลี่ยนแปลงแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกับชุมชนต้นน้ำ
  • ความร่วมมือเชิงเปลี่ยนแปลงกับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

การฟื้นฟู

ฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

  • การฟื้นฟูพืชท้องถิ่น
  • การฟื้นฟูน้ำในกระบวนการผลิต
  • การฟื้นฟูน้ำในการเกษตร
  • การฟื้นฟูน้ำในการปลูกต้นไม้
  • การฟื้นฟูระบบนิเวศในชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการ
  • การฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง

การลดผลกระทบ

บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นหรือที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด

  • การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์
  • การลดปัญหาการขาดแคลนน้ำ

การหลีกเลี่ยง

ป้องกันและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบรุนแรง

  • การหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านความเครียดน้ำ
  • แนวทางปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

นโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติ ดาวน์โหลด

เว็บไซต์ cpall.co.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายการใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า