การปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

การปกป้องฟื้นฟูระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2567


ประเมินและจัดการความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่เสี่ยง

ปลูกต้นไม้สะสม

ปล่อยลูกพันธุ์ปูม้า ระยะ Yong Crab สะสมกว่า

การดำเนินงานที่สำคัญปี 2567


พื้นที่ระพบบนิเวศในชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการ

การดำเนินการร่วมกับคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจและภาคีเครือข่าย เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ อาทิ โครงการ “สร้างบ้านให้ปลา สร้างอาชีพให้คน” โครงการ “ปลูกป่าชายเลน”

โครงการ “ปลูกป่า ปลูกอนาคต”

โครงการสนับสนุนกิจกรรมชุมชนลดก๊าซเรือนกระจก เพื่อขอการรับรอง LESS (Low Emission Support Scheme)

โครงการตามแนยวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับชั้น

สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน


SDG 6 สร้างหลักประกันว่าจะมีการจัดให้มีน้ำและสุขอนามัยสำหรับทุกคน และมีการบริหารจัดการที่ยั่งยืน

6.6 ยกระดับคุณภาพน้ำ โดยลดมลพิษ ขจัดการทิ้งขยะและลดการปล่อยสารเคมีและวัสดุอันตราย ลดสัดส่วนน้ำเสียที่ไม่ผ่านกระบวนการลงครึ่งหนึ่ง และเพิ่มการนำกลับมาใช้ใหม่

SDG 14 อนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมหาสมุทร ทะเล และทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน

14.1 ป้องกันและลดมลพิษทางทะเลทุกประเภท โดยเฉพาะจากกิจกรรมบนแผ่นดิน

SDG 15 ปกป้อง ฟื้นฟู และสนับสนุนการใช้ระบบนิเวศบนบกอย่างยั่งยืน จัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ต่อสู้การกลายสภาพเป็นทะเลทราย หยุดการเสื่อมโทรมของที่ดินและฟื้นสภาพกลับมาใหม่ และหยุดการสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ

15.1 สร้างหลักประกันว่าจะมีการอนุรักษ์ การฟื้นฟู และการใช้ระบบนิเวศบนบกและในน้ำจืดในแผ่นดิน รวมทั้งบริการทางระบบนิเวศอย่างยั่งยืนโดยเฉพาะอย่างยั่ง ป่าไม้ พื้นที่ชุ่มน้ำ ภูเขา และเขตแห้งแล้ง

ผลการดำเนินงานเทียบเป้าหมาย


ผลการประเมินประเด็นด้านความยั่งยืนแบบ
“ทวิสารัตถภาพ”

มิติด้านความยั่งยืน

  • มิติสิ่งแวดล้อม

ระดับผลกระทบเพื่อนำมาประยุกต์ใช้
ในการดำเนินธุรกิจ

  • พื้นฐาน (Foundation Material Topics)

เป้าหมายระยะสั้น ระยะยาว และความก้าวหน้าเทียบกับเป้าหมาย

ทุกพื้นที่การดำเนินการของธุรกิจมีโครงการวามร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ หรืองค์กรอิสระภายนอกเพื่อช่วยสนับสนุนการลดผลกระทบเชิงลบต่อระบบนิเวศหรือความหลากหลายทางชีวิตภาพ

สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2567

จำนวนต้นไม้ที่ปลูก เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

ต้นไม้ที่ปลูก จำแนกตามประเภท

ความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ

ภาคส่วน จำนวน
(ต้นสะสม)
พื้นที่ปลูก
(ไร่สะสม)
คาดการณ์ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
(ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า)
(กรณีต้นไม้โตเต็มวัย*)
ภาครัฐ วัด โรงเรียน 824898 8112 28488
เครือข่ายเอกชน ชุมชนใกล้เคียง 45185 427 1943
พนักงาน 54288 1084 2334

* คำนวณจากจำนวนต้นไม้ โดย GHG ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า เทียบเท่าต้นสักอายุ 5 ปี 23.26 ต้น / 1 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า.

กิจกรรมด้านป่าไม้เพื่อขอการรับรอง LESS

สนับสนุนชุนชนและสังคมให้ตระหนักถึงการลดก๊าซเรือนกระจก โครงการสนับสนุนกิจกรรมลดก๊าซเรือนกระจก (LESS: Low Emission Support Scheme)

รวมปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่วัดได้ 231.02 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

ความเสี่ยงและโอกาส


ประเด็นด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูธรรมชาติและทรัพยากรโลกถูกยับยั้งเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจ อันเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลง ของสภาพอากาศ ตลอดจนปัญหาผลผลิต ส่งผลให้ระบบนิเวศและทรัพยากรธรรมชาติเสื่อมสมดุล รวมถึงกิจกรรมและพฤติกรรมของมนุษย์ที่ตอกย้ำ ความเสียหายให้ระบบนิเวศในวงกว้าง

การประชุมสมัชชาภาคีอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพครั้งที่ 16 (The 16th Meeting of the Conference of the Parties to the UN Convention on Biological Diversity: COP16) ได้มีการหารือประเด็นว่าด้วยความหลากหลาย ทางชีวภาพ ดังนี้ การแบ่งปันผลประโยชน์จากกองทุน การเสริมสร้างบทบาทของชนพื้นเมืองและชุมชนท้องถิ่น การระดมทุนและทรัพยากร เพื่อความหลากหลายทางชีวภาพ การติดตามตัวการความหลากหลายทางชีวภาพระดับโลก (Kunming-Montreal Global Biodiversity Framework: KMGBF) ชีววิทยาสังเคราะห์ สปีชีส์ต่างถิ่นที่รุกราน พื้นที่ทางทะเลที่มีนัยสำคัญเชิงนิเวศวิทยาหรือชีวภาพ การจัดการสัตว์ป่า อย่างยั่งยืนและการอนุรักษ์พรรณพืช ความหลากหลายทางชีวภาพและสุขภาพ และการประเมินความเสี่ยงความหลากหลายทางชีววิทยา เร่งดำเนินงานตามแผนงานความหลากหลายทางชีวภาพ (The Biodiversity Plan) นำไปสู่การปฏิบัติจริงในระดับประเทศ (National Biodiversity Strategies and Action Plans: NBSAPs) เพื่อบรรลุเป้าหมายและตัวชี้วัดของแผนงานความหลากหลายทางชีวภาพในระดับโลกมาร่วมกัน

รวมถึง การพิจารณานโยบายที่เข้มงวดในการกำกับดูแลของทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ มุ่งสร้างความตระหนักรู้และดำเนินงานอย่างมีความรับผิดชอบ ต่อสิ่งแวดล้อมและสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศตลอดห่วงโซ่คุณค่า ลดความเสียหายต่อระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม แหล่งทรัพยากรทางธรรมชาติ พื้นที่เกษตรกรรม และเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนในการถือครองที่ดิน การประกอบอาชีพ แหล่งรายได้ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ ของเกษตรกรและชุมชน เนื่องด้วยระบบนิเวศที่ไม่มั่นคง สามารถส่งผลกระทบต่อเนื่องมายังการดำเนินธุรกิจ อาทิ จำนวนและคุณภาพของผลผลิต ทางการเกษตรและธรรมชาติที่ลดลง อาจนำไปสู่การขาดแคลนวัตถุดิบและทรัพยากร ส่งผลโดยตรงต่อกระบวนการผลิตและส่งมอบสินค้า ในระบบวงห่วงโซ่อุปทาน

แนวทางการดำเนินงาน


บริษัทกำหนดให้มีการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบจากกิจกรรมทางธุรกิจต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Exposure & Assessment) ภายใต้นโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ ครอบคลุมพื้นที่และการดำเนินงานของบริษัท คู่ค้า ทางธุรกิจลำดับที่ 1 ลำดับถัดไป และพันธมิตรธุรกิจตลอดห่วงโซ่คุณค่า เพื่อหลีกเลี่ยงการดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่อนุรักษ์ หรือ พื้นที่คุ้มครอง ตามนิยมและข้อกำหนดขององค์กรระหว่างประเทศเพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ (The International Union for Conservation of Nature: IUCN) และพื้นที่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกตามประกาศของ UNESCO ทั้งนี้ บริษัทกำหนดแนวทางการบรรเทาผลกระทบ อย่างมีลำดับขั้น (Mitigation Hierarchy) เพื่อบริหารจัดการ ผลกระทบเชิงลบจากการดำเนินธุรกิจ ที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสีย ต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (No Net Loss: NNL) พร้อมมุ่งเน้น ให้ความร่วมมือกับเครือข่ายพันธมิตรและกลุ่มผู้มีส่วนได้เสีย ดำเนินโครงการฟื้นฟู อนุรักษ์ และสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก ต่อระบบนิเวศทั้งทางบกและทางน้ำ เพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวกสุทธิ (Net Positive Impact: NPI) คืนความสมดุลและความอุดมสมบูรณ์ ให้กับระบบนิเวศ

การประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทกำหนดนโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพภายใต้นโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ ขององค์กร ตลอดจนข้อกำหนดและปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงประเมินความเสี่ยงและผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศทางบก และทางน้ำ รวมถึงความหลากหลายทางชีวภาพในขอบเขตพื้นที่ที่การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจ ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดที่เป็นพื้นที่โรงงานผลิต พื้นที่ศูนย์กระจายสินค้า และพื้นที่การจำหน่ายสินค้า (คิดเป็นร้อยละ 100) ตลอดจนครอบคลุมพื้นที่การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของคู่ค้าสำคัญ ลำดับที่ 1 ร้อยละ 100 บริษัทประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศร่วมกับฐานข้อมูลความหลากหลายทางชีวภาพ มาใช้ในการประเมินความเสี่ยง และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และจัดทำแผนการป้องกันหรือลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ พร้อมกับขยายนแนวทาง การพัฒนาและร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้การดำเนินกิจกรรมทางธุรกิจของบริษัทและคู่ค้าที่อยู่ในพื้นที่เขตคุ้มครองใด ๆ และ ไม่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งทางบกและทางน้ำ

ขั้นตอนการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบความหลากหลายทางชีวภาพ

1. กำหนดขอบเขต การประเมินและพื้นที่ศึกษา
  • พื้นที่ดำเนินการของธุรกิจที่ต้องทำการประเมินรวบรวม
  • กิจกรรมทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องที่ต้องทำการประเมินตามวงรอบ
  • พื้นที่ที่ดำเนินการใหม่ ครอบคลุมถึงการควบรวมร่วมทุน (Joint Venture) และบริษัทในเครือ (Subsidiary)
2. คัดกรองและประเมินขั้นต้น
  • บ่งชี้ค่าที่รอดจากพื้นที่ศึกษาและทำการเปรียบเทียบขอบเขตพื้นที่เพื่อการอนุรักษ์
  • ดำเนินการประเมินขั้นพื้นฐานการใช้เครื่องมือ Biodiversity and Ecosystem Services Trends and Conditions Assessment Tool เพื่อทำการคัดกรองพื้นที่อ่อนไหว
3. คัดเลือกพื้นที่อ่อนไหวเพื่อทำการประเมินขั้นสูงครอบคลุม 3 ด้าน
  • กำหนดพื้นที่เป้าหมายจากการศึกษาคัดกรองพื้นที่อ่อนไหว จากขั้นตอนก่อนหน้า
  • นำเข้าพิกัดในฐานข้อมูล Integrated Biodiversity Assessment Tool (IBAT) พร้อมทั้งทำการประเมินครอบคลุม 3 มิติ
IUCN Red List  Protected Areas (PA)  Key Biodiversity Areas (KBAs)

4. จัดทำแผนป้องกันและดำเนินการตามแผน
  • ดำเนินการออกแบบมาตรฐานป้องกันผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติที่ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญหรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้การออกแบบแผนที่ลดหลักการ No-Net-Loss หรือ No Net Deforestation และแนวทางการมีส่วนร่วม
  • ดำเนินการตามแผนและเปิดเผยความก้าวหน้าของการดำเนินการเพื่อส่งถึงความโปร่งใส
5. สร้างการมีส่วนร่วมและแนวทางพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
  • รับฟังความคิดเห็น เพื่อนำมาประยุกต์และเพื่อพัฒนาการดำเนินการโครงการให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น สอดคล้องกับบริบท ของระบบนิเวศและสังคมท้องถิ่น
  • ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ คู่ค้า ลูกค้า และชุมชน ในการร่วมอนุรักษ์ฟื้นฟูระบบนิเวศ และความหลากหลาย ทางชีวภาพ

ผลการประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทพิจารณาความเฉพาะเจาะจงของพื้นที่ (Location-specificity) ตามกิจกรรมดำเนินธุรกิจทั้งภายในพื้นที่ปฏิบัติงานของบริษัท พื้นที่ที่อยู่ในรัศมี 0 ถึง 5 กิโลเมตร กิจกรรมต้นน้ำของโรงงานผลิตสินค้า และกิจกรรมปลายน้ำของศูนย์กระจายสินค้าในการส่งมอบสินค้า ไปยังร้านค้าและผู้บริโภค ได้แก่ ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร ศูนย์จำหน่ายสินค้าโลตัส และศูนย์กระจายสินค้าที่ตั้งอยู่ตามที่ชุมนุมรวม 616 แห่ง ควบคู่ไปกับการพิจารณาพื้นที่อนุรักษ์ พื้นที่คุ้มครอง พื้นที่ความหลากหลายทางชีวภาพที่สำคัญ พื้นที่สำคัญทางธรรมชาติ อาทิ ป่าไม้ แหล่งน้ำขนาดใหญ่ ลุ่มน้ำ ที่ระบุตามการวิเคราะห์ของเครื่องมือประเมินความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (IBAT/BESTCAT)

การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านความหลากหลายทางชีวภาพ ปี 2567
พื้นที่ดำเนินการ (Number of sites) จำนวนพื้นที่ดำเนินการ (Number of sites) พื้นที่ (ไร่) พื้นที่ (เฮกตาร์)
พื้นที่ดำเนินการทั้งหมด (Overall) 616 8645.20 1383.23
พื้นที่ดำเนินการที่มีการประเมินผลกระทบ (Assessment) ด้านความหลากหลายทางชีวภาพ (ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา) 616 8645.20 1383.23
พื้นที่ดำเนินการที่มีแนวโน้มผลกระทบ (Exposure) ต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา) 58 754.78 120.77
พื้นที่ดำเนินการที่ส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพและได้พัฒนาระบบการบริหารจัดการ และติดตามผลกระทบ (Management Plans) ต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (ภายใน 5 ปีที่ผ่านมา) 58 754.78 120.77

การระบุประเด็นความเสี่ยงด้านความหลากหลายทางชีวภาพ

บริษัทคัดกรองและประเมินความเสี่ยงขั้นต้นในอุตสาหกรรมค้าปลีกอาหาร โดยอ้างอิงแนวทางขององค์กรกองทุนสัตว์ป่า โลกสากล (World Wide Fund for Nature: WWF) และความเฉพาะเจาะจงของพื้นที่ (Location-specificity) ตามกิจกรรมดำเนินธุรกิจ ตลอดห่วงโซ่คุณค่า ซึ่งพิจารณาถึงปัจจัยที่บริษัทมีความเสี่ยงจะส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ (Biodiversity Impacts) และ ปัจจัยทางธรรมชาติที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจหรือการผลิต (Ecosystem Service Dependencies) ทั้งนี้ บริษัทจัดลำดับปัจจัย ความเสี่ยงที่สำคัญที่มีอยู่และมีแนวโน้มจะส่งผลกระทบในอนาคต แบ่งออกเป็น 3 ปัจจัย ดังนี้

01

ผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ ของสายพันธุ์ทั่วโลก

02

ผลกระทบต่อสายพันธุ์ที่ ถูกคุกคาม

03

การพึ่งพิงดิน และน้ำ

บริษัททบทวนประเด็นความเสี่ยงตามบริบทและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ได้มาซึ่งประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญ (Critical Risk) เพื่อจัดทำ แผนบริหารจัดการความเสี่ยงและมาตรการดำเนินงานตามแนวทาง การบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น (Mitigation Hierarchy) ซึ่งครอบคลุมร้อยละ 100 จาก 58 พื้นที่ดำเนินการที่พบประเด็นความเสี่ยงที่สำคัญ

แนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น

จากกระบวนการประเมินประเมินความเสี่ยงทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมถึงผลกระทบที่สำคัญที่ยังเชิงลบและเชิงบวกในด้านความหลากหลาย ทางชีวภาพ อาทิ การรุกรานของศัตรูพืช การลดลงของสายพันธุ์พืชและสัตว์ การย้ายถิ่นฐาน และการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศวิทยา บริษัทพบประเด็นผลกระทบที่สำคัญ ได้แก่ ประเด็น ผลกระทบต่อสายพันธุ์ที่ถูกคุกคาม (Threatened Species Impact) ในพื้นที่ดำเนินการ ทางภาคเหนือของประเทศ อาทิ พื้นที่ดำเนินการ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดพิษณุโลก

บริษัทกำหนดให้มีการมาตรการ ครอบคลุมพื้นที่ที่ให้ความสำคัญ (Priority Areas) ตลอดการดำเนินการและกิจกรรมธุรกิจของบริษัท ตามลำดับ ความสำคัญจากการประเมินความเสี่ยงและผลกระทบด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่สอดคล้องกับความมุ่งมั่นของบริษัท ภายใต้นโยบาย ด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทรัพยากรธรรมชาติ

ทั้งนี้ บริษัทเคารพและติดตามข้อกำหนดและกฎหมายท้องถิ่นทางด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ท้องถิ่น ทบทวนมาตรการ ในการปฏิบัติงานอย่างเคร่งครัด พร้อมกำหนดแนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับขั้น (Mitigation Hierarchy) จากการหลีกเลี่ยง ไปจนถึงการฟื้นฟู พร้อมกับการศึกษาพืชพันธุ์พืชและสัตว์ในพื้นที่ที่ถูกประเมินว่ามีความอ่อนไหว บรรเทาผลกระทบจากการดำเนินธุรกิจที่มีต่อ ระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในระยะยาว

แนวทางการบรรเทาผลกระทบอย่างมีลำดับชั้น

การชดเชย
คืนความสมดุลหรือเกิดการเปลี่ยนแปลง
  • การเปลี่ยนแปลงแปลงแนวคิดด้านสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ธรรมชาติร่วมกับชุมชนต้นน้ำ (หัวข้อ "โครงการภาคีเครือข่ายชุมชนต้นน้ำปลูกป่า" หน้า 244)
  • ความร่วมมือเชิงเปลี่ยนแปลงกับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ (หัวข้อ "โครงการ Next Gen New World" หน้า 242)
การฟื้นฟู
ฟื้นฟูระบบนิเวศในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ
  • การฟื้นฟูพืชท้องถิ่น (หัวข้อ "โครงการปลูกป่า ปลูกอนาคต" หน้า 243-246)
  • การฟื้นฟูน้ำในกระบวนการผลิต (หัวข้อ "โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ บริษัท ซีพีแรม จำกัด ลาดหลุมแก้ว" หน้า 65 ในบท "ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากร")
  • การฟื้นฟูน้ำในการเกษตร (หัวข้อ "โครงการปันน้ำให้ชาวนา บริษัท ซีพีแรม จำกัด โรงงานลำพูน" หน้า 66 ในบท "ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากร")
  • การฟื้นฟูน้ำในการปลูกต้นไม้ (หัวข้อ "โครงการรักษ์น้ำ รักอนาคต บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)" หน้า 65 ในบท "ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากร")
  • การฟื้นฟูระบบนิเวศในชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการ (หัวข้อ "การปลูกต้นไม้ของบริษัทในกลุ่ม" หน้า 241)
  • การฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง (หัวข้อ "โครงการ ปลูกป่ายังยืน ภูเก็ต-ทะเลไทย" หน้า 242) หัวข้อ "โครงการสร้างบ้านให้ปลา สร้างอาชีพให้คน" หน้า 243)
การลดผลกระทบ
บรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น หรือที่อาจเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด
  • การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการขยายสิ่งก่อสร้างและน้ำ (หัวข้อ "ไม่จับ-ไม่ซื้อ-ไม่ขาย" สัตว์ป่าทะเลเสียดาย หน้า 243)
  • การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากบรรจุภัณฑ์ (หัวข้อ "การบูรณาการความยั่งยืน (ESG) ในกลยุทธ์การจัดการห่วงโซ่อุปทาน" หน้า 231 ในบท "การจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ")
  • การลดปัญหาน้ำขาดแคลน (หัวข้อ "โครงการมาตรการน้ำที่ดิน บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน)" หน้า 65 ในบท "ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากร")
การหลีกเลี่ยง
ป้องกันและหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่อาจส่งผลกระทบที่รุนแรง
  • การหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีความเสี่ยงด้านความเครียดน้ำ (Water Stress Area) (หัวข้อ "โครงการบริหารจัดการความเสี่ยงด้านน้ำ" หน้า 66-67 ในบท "ประสิทธิภาพการใช้พลังงานและทรัพยากร")
  • แนวทางปฏิบัติเพื่อหลีกเลี่ยงสารเคมีและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (หัวข้อ “นโยบายด้านการจัดหาอย่างยั่งยืน”)

ความร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

ซีพี ออลล์ ร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย ทั้งคู่ค้า พันธมิตรธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ ชุมชนท้องถิ่น ตลอดจนภาคีเครือข่ายของบริษัท เพื่อการดำเนินธุรกิจ ที่มีความรับผิดชอบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพในชุมชนรอบพื้นที่ดำเนินการ และเพื่อรักษาระบบนิเวศให้มีความสมบูรณ์

แผนงานปลูกป่า ปลูกอนาคต 5 ปี (2564-2568)

เป้าหมาย 1 ล้านต้น ภายในปี 2568
  2564 2565 2566 2567 2568
ปลูกต้นไม้ต่อปี 201000 156800 180000 200000 241213
ปลูกต้นไม้สะสม 201000 357800 537800 737800 1000000
ชุมชนแหล่งเพาะ 1 4 19 19  
ครัวเรือที่เข้าร่วม 200 800 3800 3800  

บริษัทตั้งเป้าหมายในการปลูกต้นไม้ จำนวน 1,000,000 ต้น ภายในปี 2568 และดำเนินโครงการสนับสนุนการปลูกต้นไม้เพื่อชุมชน โดยมีคณะทำงานปลูกต้นไม้เพื่อชุมชนที่ยั่งยืน ดำเนินงานด้านฟื้นฟูป่าไม้ และติดตามโครงการ ภายใต้กรอบการดำเนินการทั้ง 4 ด้าน ดังนี้

กรอบการดำเนินงานร่วมมือกับผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

โครงการที่สำคัญ ปี 2567

1. โครงการต่อเนื่อง ฟื้นฟูระบบนิเวศในชุมชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการ ปีที่ 4

บริษัทส่งเสริมให้พนักงานมีจิตอาสา ตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่โดยรอบพื้นที่ปฏิบัติการ ทั้ง 7-Eleven ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร โลตัส พื้นที่สถานศึกษา ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารสำนักงานทั่วประเทศ โดยสร้างการมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงานรัฐ องค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่น ผ่านกิจกรรมปลูกต้นไม้ ขยายพันธุ์ไม้ในชุมชน ปฏิบัติงานเป็นประจำอย่าง ต่อเนื่องทุกปี เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างสภาพแวดล้อมที่ดี และฟื้นฟูระบบนิเวศให้ดียิ่งขึ้น ปัจจุบันมีการปลูกต้นไม้สะสมมากกว่า 924,371 ต้น

พื้นที่ร้าน 7-Eleven ศูนย์กระจายสินค้า และสำนักงาน

พื้นที่อาคารสำนักงานและ ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร โลตัสทั่วประเทศ

พื้นที่สถานศึกษาในกลุ่ม ซีพี ออลล์

พื้นที่ที่อยู่ในความรับผิดชอบของบริษัท ซีพี แรม จำกัด

2. การดำเนินงานร่วมกับคู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจและภาคีเครือข่าย เพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ

ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางบก

โครงการต่อเนื่อง "Next Gen New World" ปีที่ 18

ซีพี ออลล์ ร่วมกับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ดำเนินโครงการ Next Gen New World ต่อเนื่องเป็นปีที่ 18 เพื่อร่วมส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักถึง ความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อลดควันป่าและระบบนิเวศที่สมบูรณ์ให้คงอยู่อย่างยั่งยืน โดยมีการปลูกป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ทั่วประเทศ ดังนี้

  • อุทยานแห่งชาติ ทับลาน อำเภอถามข้าม จังหวัดปราจีนบุรี
  • เยตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี
  • อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
  • หน่วยจัดการต้นน้ำโป่งไคร้า ตำบลโป่งแยง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
  • อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

เยาวชนเข้าร่วมอบรม

ครอบคลุมพื้นที่กว่า

มอบเงินสนับสนุนโครงการ ปี 2567

(ให้กับมูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่)


ลดผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ

โครงการต่อเนื่อง "ป่าชายฝั่ง ภูเก็ต-ทะเลไทย" ปีที่ 13

บริษัท ซีพีแรม จำกัด ดำเนินโครงการป่าชายฝั่ง ภูเก็ต-ทะเลไทย อนุรักษ์ฟื้นฟูต้นไม้ในพื้นที่ทะเลอ่าวไทย และอันดามันเพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติ ให้คงความสมบูรณ์และสมดุลของระบบนิเวศในท้องทะเล โดยได้รับความร่วมมือจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องตั้งแต่ ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ได้แก่ ชาวประมง ผู้ผลิตอวนจับปลาในบริษัท ซีพีแรม จำกัด (มหาชน) และผู้บริหารงาน รวมถึงอาสาสมัครจากองค์กรต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการดำเนินโครงการ อาทิ การปลูกป่าชายเลนและป่าโกงกาง จำนวน 3 แห่ง เพื่อให้มีแนวปะการังที่สมบูรณ์ และเพิ่มทรัพยากรธรรมชาติในทะเล อันได้แก่ สัตว์น้ำและอาหารทะเล การอนุรักษ์พื้นที่ป่าชายเลน ให้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำธรรมชาติสำหรับส่งต่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปบริหารจัดการต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเป็นจุดรับขยะหลากหลายประเภทเพื่อนำไปมอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำขยะบรรจุภัณฑ์กลับไปสู่กระบวนการรีไซเคิล สร้างคุณค่าและประโยชน์คืนแก่สังคมต่อไป

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

ร่วมปล่อยลูกพันธุ์ปูม้า ระยะ Young Crab คืนสู่ท้องทะเลไทย

สะสม

โครงการ "ปลูกป่าชายเลน"

บริษัทร่วมกับศูนย์กระจายสินค้ามหาชัย ศูนย์กระจายสินค้าสุราษฎร์ธานี และชุมชน อนุรักษ์และฟื้นฟูระบบนิเวศชายฝั่ง ในบริเวณพื้นที่ป่าชายเลน ซึ่งเป็นแหล่งเพาะพันธุ์อนุบาลและเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ทะเล ในปี 2567 ปลูกป่า 400 ต้น

โลตัสร่วมมือกับคู่ค้าฟื้นฟูป่าชายเลน คลองบ้านอำเภอ

โลตัสร่วมกับสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 2 เข้ามามีส่วนร่วมฟื้นฟูป่าชายเลนคลองบ้านอำเภอ ณ บ้านเพรียว ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน ชุมชนชายฝั่ง และอาสาสมัครพิทักษ์ป่าชายเลน เพื่อการร่วมกันปลูกป่าชายเลน บริเวณพื้นที่คลองบ้านอำเภอ เพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่บ้านคำอำเภอ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และรักษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศบริเวณคลองบ้านอำเภอให้มีความสมดุลสมบูรณ์

โครงการ "สร้างบ้านให้ปลา สร้างอาชีพให้คน"

พื้นที่น้ำคลองใหญ่ จังหวัดตราด มีทรัพยากรทางธรรมชาติที่หลากหลาย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัย ที่หลบภัย วางไข่และอนุบาลสัตว์น้ำ ซีพี ออลล์ ร่วมกับศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลน รวมถึงภาคีเครือข่ายกลุ่มประมงพื้นบ้านเทศบาลคลองใหญ่ มีส่วนร่วมและเยาวชนจังหวัดตราด จัดกิจกรรม ทำที่อยู่ (บ้านปลา) จากเชือกป่านธรรมชาติเพื่อลดปัญหามลพิษพลาสติกในระบบนิเวศทางทะเล พร้อมส่งเสริมภูมิปัญญาทำบ้านปลา ให้กับชุมชนชาวประมงพื้นบ้านคลองใหญ่และกลุ่มประมงพื้นบ้านบ้านหนองบอนและกลุ่มประมงพื้นบ้านหาดทราย จังหวัดตราด อีกด้วย

โครงการ "ไม่จับ-ไม่ซื้อ-ไม่ขาย" สัตว์น้ำวัยเยาว์

การอนุรักษ์สัตว์น้ำวัยอ่อน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อาหารของสัตว์ต่าง ๆ ในทะเล เป็นพื้นฐานและปัจจัยสำคัญในการทำประมงที่ยั่งยืน แม็คโครและโลตัสได้ร่วมกันประกาศนโยบายสื่อสารและกำหนดมาตรการต่าง ๆ ต่อคู่ค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบแหล่งที่มา กำหนดขนาดและมาตรการการเก็บเกี่ยว รวมถึงการปรับปรุงอุปกรณ์และวิธีการทำประมง และจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้แก่ผู้ผลิต คู่ค้า และกลุ่มประมงตลอดห่วงโซ่อุปทาน ผลักดันให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการจับสัตว์น้ำวัยอ่อน ควบคู่กับการลดปริมาณที่มาและเพิ่มปริมาณการทำประมงอย่างยั่งยืน

3. ปลูกป่า ปลูกอนาคต (ภายใต้การดำเนินการของ ซีพี ออลล์)

ภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ โรงเรียน และวัด และชุมชนทั่วภูมิภาค พร้อมกับจัดงานสัมมนา สร้างเครือข่ายปลูกป่า ปลูกอนาคต ปี 2567 มอบกล้าไม้ให้กับพนักงานและชุมชนจำนวน 200,000 ต้น 197 ชุมชน 32 จังหวัด ครอบคลุมพื้นที่ 1,000 ไร่ และมีตัวอย่างโครงการดังนี้

01

พลังชุมชน (บ้าน)

- ดูแลป่า
- ดูแลสิ่งแวดล้อม
- เกษตรปลอดภัย
- พัฒนาผลิตภัณฑ์

02

พลังศรัทธา (วัด)

- สร้างทุนความคิด
- สร้างทุนวิทยาการ
- สร้างทุน (ดู) ชีวิต


03

พลังความรู้ (โรงเรียน)

- ต้นกล้าไร้ถัง
- โรงเรียนป่าไม้
- เกษตรพอเพียง
- พัฒนาหลักสูตร
- ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน

โครงการต่อเนื่อง "ภาคีเครือข่ายชุมชนต้นน้ำปลูกป่า" ปีที่ 4

บริษัทร่วมกับกลุ่มชุมชน 9 แห่ง และภาคีต้นน้ำ ส่งเสริมการปลูกฝัง การอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผ่านการสนับสนุนแหล่งเพาะ กล้าไม้ สนับสนุนงบประมาณสร้างโรงเพาะพันธุ์ โรงเรียนอนุบาลกล้าไม้และ การดูแลรักษา ทั้งนี้ กล้าไม้จากแหล่งเพาะขยายในโครงการ "ปลูกป่า" จะถูกส่งต่อผ่านโครงการบำบัดอ่อน เพื่อไปปลูกที่บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน รวมถึงโครงการ "WE GROW for ALL เราปลูกเพื่อทุกคน" ให้พนักงานร่วมปลูกไปด้วยกันดังต่อไป

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

เพาะพันธุ์กล้าไม้

ครอบคลุมพื้นที่

คนในชุมชนเข้าร่วมโครงการ

คาดการณ์ลดปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก

1900  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

เงินสนับสนุน

โครงการต่อเนื่อง "WE GROW FOR ALL เราปลูกเพื่อทุกคน" ปีที่ 4

ซีพี ออลล์ สนับสนุนให้พนักงานมีจิตอาสาและตระหนักถึงความสำคัญ ของการรักษาระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม โดยจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้ ในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น ร้าน 7-Eleven, ศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร, โลตัส, สถานีการศึกษา, ศูนย์กระจายสินค้า และอาคารสำนักงานทั่วประเทศ อย่างต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี โดยร่วมมือกับชุมชน หน่วยงานภาครัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีและฟื้นฟูระบบนิเวศ

นอกจากนี้ ยังจัดกิจกรรมปลูกต้นไม้และสนับสนุนกิจกรรม "อวดต้นไม้ของขา" ให้พนักงานปลูกป่าในพื้นที่ส่วนตัว พร้อมบันทึกการปลูก ผ่านแอปพลิเคชัน "We Grow" ปี 2567 แจกจ่ายพันธุ์กล้าไม้ 4,635 ต้น ให้กับพนักงาน 1,545 คน

โครงการต่อเนื่อง "ป่าล้อมวัด" ปีที่ 4

ซีพี ออลล์ นำพันธุ์กล้าไม้จากโครงการชุมชนต้นน้ำปลูกป่าส่งมอบให้กับวัดและชุมชน เพื่อฟื้นฟูและคืนความสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ มุ่งส่งเสริมการปลูกป่าทุดแทน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน และสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน รวมถึง บริหารจัดการทรัพยากรอย่างมีคุณค่า

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

ส่งมอบพันธุ์กล้าไม้

จำนวนวัดเข้าร่วมโครงการ

จำนวนคนในชุมชนเข้าร่วมโครงการ

มูลค่าการสนับสนุน

คาดการณ์ลดปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก

1002  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

โครงการต่อเนื่อง "ไผ่พอเพียง...สู่อนาคตที่ยั่งยืน" ปีที่ 4

บริษัทร่วมกับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ "สานอนาคตการศึกษา CONNECT ED" ภายใต้ภาคีไผ่ยั่งยืน สร้างรายได้ให้แก่โรงเรียน โดยการให้ความรู้เรื่องประโยชน์ของไผ่การเพาะพันธุ์ การปลูก การดูแลรักษา การใช้ประโยชน์ และการแปรรูปไผ่ ควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อมจัดสรรทรัพยากรน้ำและดิน ผ่านรูปแบบการสัมมนาออนไลน์ ตลอดจนสนับสนุนพันธุ์กล้าไผ่ให้แก่โรงเรียนภาคีเครือข่าย

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

โรงเรียนและชุมชนเครือข่ายที่เข้าร่วมโครงการ

ผู้เข้าร่วมโครงการ

(นักเรียน 172 คน, ครู 10 คน, และคนในชุมชน 14,757 คน)

สนับสนุนพันธู์กล้าไผ่

คาดการณ์ลดปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก

6.65  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

มูลค่าการสนับสนุน

โครงการต่อเนื่อง "โรงเรียนป่าไม้ (Forestry School Concept)" ปีที่ 3

บริษัทต่อยอดโครงการ "ไผ่พอเพียง...สู่อนาคตยั่งยืน" สู่โครงการ "ปลูกป่า ปลูกอนาคต" ส่งต่อองค์ความรู้ให้กับโรงเรียน โดยบรุณาการความรู้การปลูกต้นไม้ ในเนื้อหากลุ่มสาระต่างๆ ตามหลักสูตรแกนกลาง ประกอบด้วยบ

เรียนรู้การเพาะพันธ์กล้าไม้ รู้จักชนิด ประเภทของต้นไม้ การอนุบาลดูแลรักษากล้าไม้ การปลูก
การดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ การรายงานผล การเก็บข้อมูลการเจริญเติบโต  การรณรงค์การปลูกและดูแลรักษาป่าไม้

ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ

โรงเรียนและสถานศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ

ผู้เข้าร่วมโครงการ

(นักเรียน 2,142 คน, ครู 148 คน, และคนในชุมชน 7,019 คน)

คาดการณ์ลดปริมาณปล่อยก๊าซเรือนกระจก

471.2  ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า

4. การปลูกต้นไม้ของบริษัทในกลุ่ม

โครงการต่อเนื่อง CPRAM Green Life #แสนกล้าสู่แสนต้น ปีที่ 4

ซีพีแรมส่งมอบกล้าไม้ยืนต้นให้กับพนักงาน ชุมชน และผู้ที่สนใจทั่วประเทศ นำกล้าไม้ไปปลูกยังพื้นที่อาศัยและพื้นที่สาธารณะในชุมชนตามภูมิลำเนา เพื่อช่วยกระจายพื้นที่สีเขียว ฟื้นฟู และรักษาสมดุลของระบบนิเวศ และเพิ่มปริมาณต้นไม้ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2567 ส่งมอบกล้าไม้ 1,100 ต้น สะสมกว่า 80,300 ต้น

โครงการต่อเนื่อง CPRAM Green Life #ปลูกเพื่อโลกยั่งยืน ปีที่ 4

ซีพีแรมดำเนินการปลูกต้นไม้ทั้งป่าบก และป่าชายเลน กระจายไปตามจังหวัดซึ่งเป็นที่ตั้งของบริษัท ซีพีแรม จำกัด ทั้ง 7 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงจังหวัดใกล้เคียง เพื่อมุ่งเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความสมดุลของโลกและเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ในปี 2567 ปลูกต้นไม้ 11,292 ต้น บนพื้นที่กว่า 12,800 ตารางเมตร หรือกว่า 8 ไร่

นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง

นโยบายด้านความหลากหลายทางชีวภาพ และทรัพยากรธรรมชาติ ดาวน์โหลด

เว็บไซต์ cpall.co.th มีการเก็บคุกกี้ซึ่งเป็นการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้า นโยบายการใช้คุกกี้

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    เปิดใช้งานตลอด

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้ในส่วนวิเคราะห์

    คุกกี้ประเภทนี้จะทำการเก็บข้อมูลการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ในการวัดผล ปรับปรุง และพัฒนาประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ ถ้าหากท่านไม่ยินยอมให้เราใช้คุกกี้นี้ เราจะไม่สามารถวัดผล ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ได้

บันทึกการตั้งค่า