การจัดการบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน



ผลการดำเนินงานที่สำคัญปี 2565
ใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ นำมาใช้ใหม่ หรือสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ
47234.18 ตันใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (Recycled Material/Recycled Content)
2284.50 ตันใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ผ่านการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม
3217.40 ตันลดการใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์พลาสติก และไม่ใช้พลาสติกที่เกินความจำเป็น จากการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์
1814.51 ตันลดการใช้ถุงพลาสติกและพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single Use Plastic)
24695.81 ตันบรรจุภัณฑ์หลังการอุปโภคบริโภคที่ผ่านการนำกลับมาใช้ใหม่
2701.40 ตันการดำเนินงานที่สำคัญปี 2565
ผู้มีส่วนได้เสียหลักที่ได้รับผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ
สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน
ผลการดำเนินงานเทียบเป้าหมาย
เป้าหมายปี 2573
ร้อยละ 100บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่อยู่ในการควบคุมของบริษัท (Private Brand) ต้องสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) หรือนำมาใช้ใหม่ (Recyclable) หรือสามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable) สำหรับบริษัทที่มีการดำเนินงานในประเทศไทย ภายในปี 2568 สำหรับบริษัทที่มีการดำเนินงานในต่างประเทศ ภายในปี 2573
ความก้าวหน้าเทียบกับเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาว
สรุปผลการดำเนินงาน ปี 2565
ปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์ทั้งหมด
บรรจุภัณฑ์พลาสติก
การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกทั้งหมด
การใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกเฉลี่ยต่อสาขา
สัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก จำแนกตามประเภท
การจัดการบรรจุภัณฑ์พลาสติกตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำมาใช้ซ้ำได้
การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้
การใช้บรรจุภัณฑ์ที่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ
การลดใช้พลาสติกจากการออกแบบ พัฒนาบรรจุภัณฑ์
การลดใช้ถุงพลาสติกและพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง
การนำบรรจุภัณฑ์หลังจากอุปโภคบริโภคกลับมาใช้ใหม่
บรรจุภัณฑ์ที่ไม่พลาสติก
การใช้บรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช่พลาสติก ปี 2565 จำแนกตามประเภท | ปริมาณน้ำหนักที่ใช้ทั้งหมด (ต้น) | นำมาใช้ใหม่และหรือได้รับการรับรอง (ร้อยละ) | เป้าหมายปี 2565 (ร้อยละ) |
---|---|---|---|
![]() |
7430.67 |
74.03 |
65 |
![]() |
14.81 |
100 |
100 |
![]() |
547.25 |
100 |
100 |
ความเสี่ยงและโอกาส
ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ขยะบรรจุภัณฑ์ประเภทพลาสติกนั้น ถูกจัดเป็นหนึ่งในประเด็นผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกให้ความสำคัญที่สุด เนื่องจากคุณสมบัติของพลาสติที่มีความแข็งแรง ทนทาน ผลิตได้ง่าย และต้นทุกต่ำ จึงทำให้ความต้องการใช้และปริมาณการผลิตพลาสติกเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสวนทางกับความสามารถในการบริหารจัดการขยะพลาสติกในปัจจุบัน โดยผลการศึกษาพบว่า อัตราการรีไซเคิลหรือการจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกต้องนั้นค่อนข้างต่ำ โดยเฉพาะในประเทศที่กำลังพัฒนา ทำให้ขยะพลาสติกถูกทิ้งและตกค้างอยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบต่อความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ เช่น ปัญหาไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำและสัตว์น้ำ เป็นต้น อีกทั้งยังส่งผลต่อความปลอดภัยด้านโภชนาการของมนุษย์และก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพต่างๆ นอกจากนี้ บรรจุภัณฑ์ส่วนใหญ่ถูกผลิตขึ้นด้วยกระบวนการทางเคมี ซึ่งมีส่วนประกอบส่วนใหญ่ที่สังเคราะห์ขึ้นไม่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้มีส่วนได้เสีย อาทิ กลุ่มพนักงานในร้านและศูนย์กระจายสินค้าและกลุ่มลูกค้าที่มีความใกล้ชิดและสัมผัสกับบรรจุภัณฑ์โดยตรง ทั้งนี้ การดำเนินธุรกิจด้านการจำหน่ายสินค้าทั้งในรูปแบบค้าปลีกและค้าส่งนั้น ถือเป็นสาเหตุหลักที่ก่อให้เกิดปัญหาขยะพลาสติก เนื่องจากผลิตภัณฑ์มีความจำเป็นในการใช้บรรจุภัณฑ์เพื่อห่อหุ้มผลิตภัณฑ์และคงไว้ซึ่งคุณภาพ บรรจุภัณฑ์บางประเภทไม่สามารถย่อยสลายหรือนำมาใช้ประโยชน์อื่นได้ รวมถึงอาจมีส่วนประกอบของวัสดุที่เป็นสารเคมีอันตรายอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ธุรกิจที่สามารถพัฒนานวัตกรรมด้านบรรจุภัณฑ์ให้สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายทางธรรมชาติได้ง่าย ตลอดจนเป็นมิตรต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมจะเป็นส่วนสำคัญในการบรรเทาผลกระทบจากปัญหาขยะบรรจุภัณฑ์ และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดสีเขียวที่ผู้บริโภคมีแนวโน้มให้ความสำคัญมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น การบริหารจัดการนวัตกรรมและกระบวนการบริหารจัดการบรรจุภัณฑ์พลาสติกในภาคอุตสาหกรรมจึงเป็นประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
แนวทางการดำเนินงาน
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ("บริษัท") ติดตามกฎหมายข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการขยะบรรจุภัณฑ์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เท่าทันข้อบังคับและติดตามข้อกำหนดให้เป็นปัจจุบัน ที่อาจมีการห้ามใช้บรรจุภัณฑ์บางประเภทในการห่อหุ้มและขนส่งผลิตภัณฑ์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจโดยรวมของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทกำหนดนโยบายด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน โดยมีแนวทางการดำเนินงานที่ครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่น การสร้างที่ยั่งยืน โดยมีแนวทางการดำเนินงานที่ครอบคลุมประเด็นต่างๆ เช่น การสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียเพื่อจัดการบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร การออกแบบและการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ในผลิตภัณฑ์ควบคุมของบริษัท (Private Brand) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุทางเลือกที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ (Compostable Materials) และการนำบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำ เป็นต้น โดยกระบวนการดำเนินงานเหล่านี้ มีการเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ อาทิ สัดส่วนการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติก (ตัน) ซึ่งจำแนกตามประเภท และปริมาณน้ำหนักที่สามารถนำไปรีไซเคิลได้ เพื่อให้บริษัทสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ และนำข้อมูลมาปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากขยะบรรจุภัณฑ์ที่เกิดขึ้นจากองค์กรให้น้อยที่สุด พร้อมกันนี้ บริษัททบทวนผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการดำเนินงานด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อมสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ตลอดจนเป็นวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือยิ่งไปกว่านั้น บริษํทยังมีการติดตามและรวบรวมข้อมูลอย่างรอบด้าน อาทิ ผลประกอบการของบริษัท ผลกระทบที่อาจส่งผลต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายและข่าวสารในระดับมหภาคทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์เและเป็นฐานข้อมูลสำหรับการกำหนดหรือทบทวนนโยบาย และแผนการดำเนินงานในอนาคต
โปรแกรมการจัดการบรรจุภัณฑ์ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน
บริษัทตั้งเป้าหมายลดปริมาณขยะพลาสติกและบรรจุภัณฑ์ที่ส่งเข้ากระบวนการฝังกลบให้น้อยที่สุด ผ่านการส่งเสริมการบริหารจัดการขยะ โดยแนวคิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้บรรจุภัณฑ์พลาสติกของสินค้าในการควบคุมของบริษัท (Private Brand) สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable) นำมาใช้ใหม่ (Recycle) หรือสามารถย่อยสลายตัวตามธรรมชาติได้ (Compostable) ภายใต้แนวคิด "Reduce-Reuse-Recycle (3R)" โดยดำเนินภายใต้ 3 มาตรการ ดังนี้
ทั้งนี้ ในปี 2565 บริษัทดำเนินโครงการด้านการจัดการบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่หลากหลายตามมาตรการลดพลาสติกอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีการตรวจวัดและจัดเก็บข้อมูลผลการดำเนินงานในทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อมูลด้านผลประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ เช่น ปริมาณบรรจุภัณฑ์ทั้งหมด ปริมาณการลดลงของขยะบรรจุภัณฑ์ ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ลดลง เป็นต้น โดยมีโครงการที่โดดเด่นในปี 2565 ดังนี้
การพัฒนาบรรจุภัณฑ์บนแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และการออกอแบบเพื่อสิ่งแวดล้อมสำหรับสินค้าในการควบคุมของบริษัท ลดการใช้พลาสติก ณ แหล่งกำเนิด
โครงการลดการใช้พลาสติจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมมือกับคู่ค้าลดการใช้พลาสติกจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความหนาและรูปแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานของกลุ่มถ้วยกับข้าว ถ้วยขนมหวานทานเย็น และถาดสลัดอิ่มคุ้ม


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการต่อเนื่อง พัฒนาบรรจุภัณฑ์ข้าวผัดปู กล่องครึ่งอิ่ม ถาด 1 หลุม
ลดปริมาณการใช้พลาสติกและใช้ฟิล์มปิดฝาถาด (Top Seal) แทนพลาสติกเคลือบฝาบนติดสติ๊กเกอร์


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการซองแซนด์วิชอบร้อนแบบถือได้
ลดการใช้ถุงหูหิ้ว ชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single use) และลดการใช้กระดาษจากการออกแบบบรรจุภัณฑ์แซนด์วิชอบร้อนหลังจากอุ่นร้อน โดยเปลี่ยนรูปแบบจากกล่องกระดาษอาร์ตการ์ด (Art card) เป็นซองกระดาษกันไขมัน (Greaseproof) ชนิดบางที่ได้รับการรับรองจากองค์กร Program for the Endorsement of Forest Certification Scheme (PEFC)


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการถาดอิ่มคุ้มเปลี่ยนปลอก (Sleeve) กระดาษเป็นแถบรัดพลาสติก (Banding plastic)
ลดการใช้พลาสติกและกระดาษ จากการเปลี่ยนรูปแบบบรรจุภัณฑ์ถาดอิ่มคุ้มสำหรับเมนู ข้าวไก่กระเทียม กะเพราไก่คั่ว ข้าวผัดหมู ข้าวไก่ทอด โดยการยกเลิกการใช้ฟิล์มหด (Shrink film) และเปลี่ยนจากปลอก (Sleeve) กระดาษเป็นแถบรัดพลาสติก (Banding plastic)
ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ถาด 2 หลุม
ออกแบบบรรจุภัณฑ์ใหม่ลดใช้พลาสติกและใช้ฟิล์มปิดฝาถาดแทนพลาสติกเคลือบฝาบนติดสติกเกอร์


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการต่อเนื่อง ฟิล์มปิดผนึกพิมพ์ลายสำหรับบรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหารไทยแช่เย็น
บริษัท ซีพีแรม จำกัด พัฒนานวัตกรรมฟิล์มลามิเนตที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์กลุ่มอาหารไทยแช่เย็น สามารถพิมพ์ลายลงบนฟิล์มทดแทนการใช้สติกเกอร์ ซึ่งจะเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยนำหลักการ 3Rs (Reduce Reuse and Recycle) มาเป็นแนวปฏิบัติ ลดปริมาณการใช้พลาสติกในทุกกระบวนการผลิต


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการต่อเนื่อง พัฒนาบรรจุภัณฑ์กล้วยหอมทองลดขนาดความหนาของถุงกล้วยหอมทอง


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการต่อเนื่อง พัฒนาฝายกดื่มทดแทนการใช้หลอดพลาสติกใช้ในร้าน All Cafe ทุกสาขาทั่วประเทศ


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการลดความหนาของบรรจุภัณฑ์ม้วนฟิล์มสำหรับสินค้าอุ่นร้อน
บริษัท ซีพีแรม จำกัด พัฒนานวัตกรรมการผลิตม้วนฟิล์มที่ทันสมัยสามารถลดความหนาของบรรจุภัณฑ์ ม้วนฟิล์มที่ใช้ในกลุ่มสินค้าอุ่นร้อนด้วยหม้ออบลม โดยความหนาของพลาสติกลดจาก 60 ไมครอนเหลือ 40 ไมครอน โดยนำหนักลดลงคิดเป็น 0.97 กรัมต่อชิ้น
ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการทดแทนถาดพลาสติกด้วยบรรจุภัณฑ์กระดาษคราฟท์ Food Grande
บริษัท ซีพีแรม จำกัด พัฒนาบรรจุภัณฑ์กระดาษคราฟท์ที่ปราศจากสารเคมี หรือสิ่งปนเปื้อน มีความปลอดภัยสูง สามารถใช้เป็นภาชนะใส่อาหารได้อย่างปลอดภัย ทดแทนการใช้ถาดพลาสติก ซึ่งสามารถลดการใช้พลาสติก 7.09 กรัมต่อชิ้น
ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการลดความหนาของแก้วกระดาษ เครื่องดื่มเย็นใช้กับกลุ่มสินค้า Non All Cafe ได้แก่ เครื่องดื่มกัฟ (Gulp) เครื่องดื่มปั่นเป็นเกล็ดสเลอปี้ (Slurpee) และเครื่องดื่มแบบกด (Jet Spray)


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการเลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์จากแหล่งที่มีการจัดการอย่างยั่งยืน


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการเลือกใช้วัสดุบรรจุภัณฑ์ที่สามารถสลายตัวได้ทางชีวภาพ (Compostable)


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล (Recycled Content Material)


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ส่งเสริมการนำกลับมาใช้ซ้ำ (Reusable)
ถ.ถุงทนทานได้รับการออกแบบให้มีความทนทาน สามารถนำมาใช้ซ้ำได้


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการยกเลิกวัสดุบรรจุภัณฑ์ที่ยากต่อการรีไซเคิลในสินค้าแบรนด์โลตัส (Lotus's Brand)
โลตัสกำหนดเป้าหมายในการยกเลิกวัสดุที่ยากต่อการรีไซเคิลในสินค้าแบรนด์โลตัส (Own Brand) ทั้งหมด ภายในปี 2573 เพื่อช่วยลดผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ในปี 2565 โลตัสสามารถยกเลิกบรรจุภัณฑ์ที่ยากต่อการรีไซเคิลทุกกลุ่มสินค้าแบรนด์ ได้ถึงร้อยละ 98.8 นอกจากนี้ โลตัสยังตระหนักถึงความสำคัญของการสนับสนุนพฤติกรรมผู้บริโภคให้คัดแยกขยะ เพื่อให้ระบบปิดของบรรจุภัณฑ์ (Closed-Loop Pacaging System) และการบริหารจัดการขยะจากบรรจุภัณฑ์นั้นเป็นไปอย่างครบวงจร รวมถึงยังมุ่งสร้างการตระหนักรู้และความเข้าใจให้แก่ชุมชน ส่งเสริมการรีไซเคิล ผ่านการขยายจุดรับขยะบรรจุภัณฑ์สำหรับการรีไซเคิลที่สาขาทั่วประเทศ


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการ "แม็คโครรักษ์โลก" (Say Hi to Bio Say No to Foam)
บริษัทมีเป้าหมายหยุดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์โฟมแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งในศูนย์จำหน่ายสินค้าทุกสาขาทั่วประเทศ ซึ่งดำเนินโครงการครั้งแรกในปี 2562 โดยเริ่มจากสาขาที่อยู่ใกล้บริเวณแหล่งท่องเที่ยวทางทะเล ก่อนขยายให้ครอบคลุมทุกสาขา ควบคู่ไปกับการจัดสัมมนาให้ความรู้และจัดกิจกรรมรณรงค์อย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเสริมการขายในราคาประหยัด จนโครงการนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการร้านอาหาร ร้านค้า ผู้บริโภคทั่วไป เห็นได้จากการเติบโตที่สูงขึ้นของกลุ่มบรรจุภรํฑณืย่อยสลายได้ที่เติบโตขึ้น ในปี 2565 ต่อยอดความสำเร็จด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจจัดกิจกรรมรูปแบบต่างๆ และมีผลิตภัณฑ์รักษ์โลกมากกว่า 530 รายการ ทำให้ได้ชื่อว่าเป็นศูนย์รวมบรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้ที่สำคัญแห่งหนึ่งของประเทศ ปลุกกระแสเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ผู้ประกอบการร้านอาหารและลูกค้าทั่วไปหันมาใช้บรรจุภัณฑ์ย่อยสลายได้


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
ลดและทดแทนการใช้พลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastic) ณ ขั้นตอนการบริโภค ส่งเสริมผู้บริโภคและพนักงาน ด้วยแนวคิด "ลดรับ ลดให้ = ลดใช้"
โครงการต่อเนื่อง รวมพลังคนไทย เลิกใช้ถุงพลาสติก
บริษัทเชิญชวนให้ลูกค้าพกพาถุงผ้ามาใช้บริการตามร้านสะดวกซื้ออย่างต่อเนื่อง เพื่อลดการใช้ถุงพลาสติกและรณรงค์ให้ใช้วัสดุทดแทนที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ ทุกการปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติกของลูกค้าจะแปลงเป็นมูลค่าเพื่อการจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รวมถึงสมทบทุนให้กับโรงพยาบาลนำไปใช้ประโยชน์ในการซื้อเครื่องมือที่จำเป็น นอกจากนี้ยังส่งมอบครุภัณฑ์ทางการแพทย์ และสมทบทุนให้กับหน่วยงานราชการต่างๆ อาทิ มหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษา โรงเรียน กลุ่มเปราะบาง และหน่วยงานอื่นๆ ในปี 2565 มีการขยายผลเชิญชวนให้ลูกค้าปฏิเสธการรับช้อน ส้อม หลอด แก้ว และถุงพลาสติก อย่างต่อเนื่องภายใต้โครงการ "ลด และ ทดแทน" โดยมียอดการลดใช้ถุงพลาสติก 3,929.64 ล้านใบและพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use Plastic) ได้แก่ ช้อน ส้อม หลอด และแก้ว จำนวน 1,262 ล้านชิ้น


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการบรรจุภัณฑ์รักษ์โลก
ร้าน 7-Eleven รณรงค์งดแจกถุงขนาดเล็กยกเว้นของร้อน และเปลี่ยนมาใช้บรรจุภัณฑ์รักษ์โลก ในสาขาที่ตั้งบนเกาะ หรือตั้งอยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จำนวนกว่า 1,000 สาขา


โครงการ Green Coffee Shop
ร้านกาแฟที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Coffee Shop) เป็นโครงการความร่วมมือของบริษัทกับผู้ประกอบการ สร้างการมีส่วนร่วมช่วยลดขยะพลาสติก ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดแยกขยะภายในร้านกาแฟ เพื่อสนับสนุนให้ร้านสามารถส่งขยะกลับไปสู่กระบวนการรีไซเคิล หรือนำมาใช้ซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดปริมาณขยะ รวมทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้มีการสร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์หรือวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น นอกจากนี้ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมประกาศเจตนารมณ์กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในการลดขยะมูลฝอยประเภทแก้วพลาสติกและหลอดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง สำหรับร้านกาแฟและเบเกอรี่เฮ้าส์ ในกลุ่ม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด 4 แบรนด์ ได้แก่


สร้างความร่วมมือกับพันธมิตร ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคการศึกษา คัดแยก และนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycled) ลดขยะบรรจุภัณฑ์ ทั้งพลาสติกและไม่ใช่พลาสติกหลังการอุปโภคบริโภค สู่การฝังกลบ
โครงการ "ถังคัดแยกขยะ"
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) จัดให้มีโครงการ "ถังคัดแยกขยะ" รณรงค์ให้คนไทยช่วยกันคัดแยกขยะพลาสติก ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) อย่างยั่งยืน ในปี 2565 บริษัทวางถังคัดแยกขยะบริเวณด้านหน้าร้าน 7-Eleven จำนวน 12,247 สาขา ทั่วประเทศ พร้อมทั้งประสานความร่วมมือกับ 7 มหาวิทยาลัย และเพจลุงซาเล้งกับขยะที่หายไป วึ่งเป็นการระดมไอเดียจากคนรุ่นใหม่ผลักดันโครงการนวัตกรรม นำไปสู่การรณรงค์ให้เกิดการแยกขยะที่ถูกต้อง เป็นการต่อยอดสู่โครงการ "ถังขยะอัจฉริยะ" (Circular Bin) สำหรับใช้บนแอปพลิเคชัน "กรีนทูเก็ท" (Green2Get) ผ่านการเปลี่ยนถังขยะหน้าร้าน 7-Elelven เป็นถังขยะอัจฉริยะ (Circular Bin) กว่า 60 แห่ง ใน 7 มหาวิทยาลัย พื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล เมื่อผู้ใช้สแกนบาร์โค้ดสินค้าใดๆ บริเวณหน้าถังขยะ แอปพลิเคชันจะบอกวิธีการคัดแยกขยะพร้อมแนะนำถังขยะที่ควรทิ้งให้ถูกต้อง ซึ่งจะช่วยให้ขยะพลาสติกเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจหมุนเวีนน (Circular Economy) อย่างมีประสิทธิภาพ


โครงการ Recycling Station และถุงคืนชีพ
โลตัสมีบทบาทอย่างต่อเนื่องในการรณรงค์และสนับสนุนให้ลูกค้าและผู้บริโภคนำบรรจุภัณฑ์ที่ไม่ใช้แล้วเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิล โดยใช้ประโยชน์จากการมีสาขาครอบคลุมในหลายพื้นที่และสามารถเข้าถึงชุมชนเป็นจุดแข็งในการสร้างช่องทางการรับกลับวัตถุดิบเพื่อการรีไซเคิล โดยจัดตั้งจุดรับบรรจุภัณฑ์รีไซเคิล (Recycling Station) เพื่อส่งเสริมให้ลูกค้าตระหนักถึงการใช้ทรัพยากรที่มีให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลูกค้าสามารถนำบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลประเภทต่างๆ มาวางไว้ตามจุดรับที่บริษัทจัดไว้ให้บรรจุภัณฑ์เหล่านี้จะถูกเก็บเข้ามาอยู่ในระบบและสามารถนำไปรีไซเคิลหรือนำกลับมาใช้ซ้ำได้ โดยมีจุดรับขยะบรรจุภัณฑ์สำหรับแต่ละประเภท ได้แก่
นอกจากนี้ โลตัส ยกเลิกการแจกถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งตามนโยบายของภาครัฐอย่างเคร่งครัด ตั้งแต่ปี 2563 และได้พัฒนา "ถุงคืนชีพ" ถุงพลาสติกแบบใช้ซ้ำได้หลายครั้ง ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลจำหน่ายให้สำหรับลูกค้าที่มีความจำเป็นเท่านั้น โดยลูกค้าสามารถนำมาแลกใบใหม่ได้ฟรีหากใบเก่าชำรุด ถุงคืนชีพที่ชำรุดทั้งหมดจะถูกนำไปรีไซเคิลเป็นถุงคืนชีพใบใหม่ เพื่อลดการใช้พลาสติก
ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการ "ถุงหูหิ้วร้าน 7-Eleven" จากฟิล์มพันพาเลทศูนย์กระจายสินค้า
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับคู่ค้าธุรกิจ นำขยะพลาสติกจากฟิล์มพันพาเลทศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ มารีไซเคิลผลิตเป็นถุงหูหิ้วสำหรับใช้ในร้าน 7-Eleven ความหนา 37 ไมครอน ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการ ตระกร้าชอปปิงในร้าน 7-Eleven จากลังเบรคเคสชำรุดศูนย์กระจายสินค้า
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นำลังเบรคเคสที่ชำรุดมาดัดแปลงและรีไซเคิลเป็นตะกร้าสำหรับใช้ชอปปิงในร้าน 7-Eleven เพื่อเป็นการลดขยะภายใรร้าน และเป็นการใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากยิ่งขึ้น


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการ "เสื้อพนักงาน" จากขวดพลาสติก
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) นำขวดพลาสติกมารีไซเคิลเป็นเสื้อเครื่องแบบของพนักงานร้าน 7-Eleven โดยใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลขนนาด 1.5 ลิตร จำนวน 4 ขวด ต่อการผลิตเสื้อพนักงาน 1 ตัว และผลิตเสื้อโปโลของพนักงานศูนย์กระจายสินค้า โดยใช้ขวดพลาสติกขนาด 1.5 ลิตร จำนวน 8 ขวด ต่อการผลิตเสื้อพนักงาน 1 ตัว รวมถึงเสื้อโปโลสำหรับพนักงานสายสำนักงาน โดยใช้ขวดพลาสติกรีไซเคิลขนาด 0.6 ลิตร จำนวน 12 ขวด ต่อเสื้อ 1 ตัว ปัจจุบันสามารถผลิตเสื้อพนักงานกว่า 755,790 ตัว และสามารถลดปริมาณขวดพลาสติกเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลไปแล้วกว่า 3,330,308 ขวด


ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการ เพิ่มมูลค่าการจัดการขยะพลาสติกที่ปนเปื้อในโรงงาน
บริษัท ซีพีแรม จำกัด นำขยะพลาสติกที่ปกเปื้อนจากกระบวนการผลิตภายในโรงงาน ส่งให้บริษัทภายนอกนำไปแปรรูปเป็นขยะเชื้อเพลิง (Refuse Derived Fual: RDF) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงชีวภาพที่ผลิตมาจากขยะและมีค่าความร้อนจำเพาะสูง นับว่าเป็นแหล่งพลังงานที่เป็นพลังงานสะอาด
ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
โครงการ "ขวดเปล่า ไม่สูญเปล่า"
การเริ่มต้นแยกขยะขวดเปล่าพลาสติกสามารถสร้างประโยชน์ได้หลายมิติ บริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) จึงรวบรวมขวดน้ำพลาสติก (PET) เพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงช่วยลดใช้ทรัพยากรโลก ทำนุบำรุงศาสนาสร้างอาชีพ และช่วยสนับสนุนทางสาธารณสุขอีกด้วย
การดำเนินงาน | ผลลัพธ์ ปี 2565 |
---|---|
บริษัทเชิญชวนพนักงานร่วมกันนำขวด PET มาหย่อนในจุดรับขวดที่สำนักงานใหญ่หรือศูนย์จำหน่ายสินค้าแม็คโคร |
![]() ![]() ![]() |
บริษัทร่วมมือกับวัดจากแดง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ รวบรวมขวด PET ที่ใช้แล้ว จากศูนย์จัดจำหน่ายสินค้าบริเวณใกล้เคียงกับวัดจากแดง เพื่อนำไปแปรรูปเป็นจีวรพระ ในขณะที่สาขาที่อยู่ห่างไกลจะรวมขวดน้ำ PET ขาย และนำเงินที่ได้บริจาคให้กับวัดจากแดง |
![]() ![]() ![]() |
บริษัทร่วมมือกับบริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) นำขวด PET มาแปรรูปเป็นชุด PPE คุณภาพสูง โดยเปิดจุดรับบริจาค นำร่องที่ศูนย์จำหน่ายสนิค้าแม็คโคร 6 สาขา ประกอบด้วย สาขานครปฐม สาขาศาลายา สาขาเพชรเกษม สาขาบางบอน สาขาจรัญสนิทวงศ์ และสาขาแจ้งวัฒนะ | ![]() ![]() |
โครงการวิจัยและพัฒนาบรรจุภัณฑ์นวัตกรรม
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) พัฒนาบรรจุภัณฑ์รูปแบบใหม่สำหรับบรรจุภัณฑ์สินค้าแซนด์วิชอบร้อนเพื่อลดการใช้ถุงพลาสติกหูหิ้ว โดยโครงการมีการกำหนดแผนและระยะเวลาในการดำเนินการทั้งหมด 4 เฟส คือ 1) ออกแบบทดลองในสเกล Lap 2) ทดลองใช้งานในร้าน 7-Eleven จำนวน 110 สาขา 3) ทดลองขยายผลใช้งานในร้าน 7-Eleven ในเขตกรุงเทพและปริมณฑล (BE) ประมาณ 6,000 สาขา 4) ขยายผลการใช้งานในร้าน 7-Eleven ทั่วประเทศ โดยในปัจจุบัน โครงการดำเนินการอยู่ในเฟสที่ 4 โดยแนวคิดในการพัฒนาจำเป็นต้องครอบคลุมทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
โดยการทดลองการปรับปรุงบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้ากลุ่มแซด์วิชอบร้อนนั้นมีรายละเอียดดังนี้
ผลลัพธ์และประโยชน์ที่ได้รับ
นโยบายและแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้อง
นโยบายด้านบรรจุภัณฑ์ | ดาวน์โหลด |